วันที่ 2 มี.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ อาคารเรียนรวม 100 ปี คณะเทคโนโลยีการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข เดินทางมาเป็นประธานเปิดงาน สธ.เตรียมประชุมกัญชาทางการแพทย์สัญจร นำร่องเขตสุขภาพ 9 ที่สุรินทร์ 4 มี.ค.นี้

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข เตรียมจัดประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์สัญจร 12 เขตสุขภาพ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจบุคลากรทางการแพทย์ ประชาชน และผู้ประกอบการ หลังปลดกัญชาออกจากยาเสพติด โดยเริ่มแห่งแรกที่เขตสุขภาพที่ 9 จ.สุรินทร์ ในวันที่ 4 มีนาคม 2565 และจัดต่อเนื่องจนครบ 12 เขตสุขภาพ ในเดือนพฤษภาคม 2565

ด้าน นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ประธานกรรมาธิการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ส.ส.พรรคภูมิใจไทยเขต 1 สุรินทร์ กล่าวว่า งานจะจัดขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 4 มีนาคม 2565 ที่อาคารเรียนรวม 100 ปี คณะเทคโนโลยีการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข เดินทางมาเป็นประธานเปิดงาน สธ.เตรียมประชุมกัญชาทางการแพทย์สัญจร นำร่องเขตสุขภาพ 9 ในฐานะผู้มีส่วนผลักดันให้เกิดงานนี้ครั้งแรกของไทยที่สุรินทร์ ได้กล่าวว่า สำหรับเรื่อง พรบ.กัญชา ตอนนี้ทางพรรคภูมิใจไทย ได้เสนอเรื่องไปที่สภาซึ่งประธานสภารับเรื่องไว้แล้ว คาดว่า เปิดสมัยประชุมคราวหน้า คงมีการบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมพิจารณา พรบ.กัญชา ซึ่งจากความเข้าใจของชาวไทยหรือชาวโลกที่เข้าใจว่ากัญชาคือยาเสพติด สำหรับตนแล้ว ที่ได้หยิบยกเรื่องนี้มาศึกษา ซึ่งตนมองว่าวันนี้กัญชาไม่ไช่ยาเสพติดอีกต่อไป กลับเป็นสมุนไพรวิเศษ ที่กฎหมายเขียนบัญญัติไว้เป็นยาเสพติด ซึ่งคนที่กำหนดให้กัญชาเป็นยาเสพติดก็คือต่างชาติ และมีหลายประเทศที่สามารถปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดจนสามารถสร้างรายได้ให้ปีหนึ่ง หลายหมื่นหลายแสนล้านบาทนายปกรณ์ ยังกล่าวต่อไปว่า ตนเคยไปเที่ยวงานกัญชาที่ จ.บุรีรัมย์ ได้ดื่มน้ำกัญชาแล้วทำให้อารมดีขึ้น เห็นมดตัวเท่าช้าง แตกต่างจากการดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อดื่มแล้วเกิดอาการคึกคะนอง ประมาท เห็นช้างตัวเท่ามด โดยที่คนข้างตัวตนที่เป็นโรคเก๊าท์กินยารักษามานาน พอได้ใช้น้ำมันกัญชา ทำให้โรคเก๊าท์หายเป็นปลิดทิ้ง โดยที่สามารถยืนยันเป็นตัวตนได้คือ กำนันตำบลเฉนียง อ.เมืองสุรินทร์ ตนขอยืนยันว่า ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด