"โบ TK" เปิดใจ ! เสียความรู้สึก "กระติก" ให้การตำรวจขัดกับความเป็นจริง !
4 มี.ค. 2565, 10:25
วันที่ 3 มี.ค. 65 นางสาวสุรัตนาวี ภัทรานุกุล หรือ “โบ ไทรอัมพ์ส คิงดอม” หนึ่งในบุคคลสำคัญที่ปรากฎภาพในกล้องวงจรปิดที่อู่เก็บเรือ NBC ซึ่งนับได้ว่าเป็นพยานปากสำคัญในคดี หลังแตงโม ภัทรธิดา หรือ นิดา พัชรวีระพงษ์ พลัดตกเรือเสียชีวิต โดยใช้เวลาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนานกว่า 6 ชั่วโมง ก่อนจะเปิดใจกับสื่อมวลชนเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันเดียวกันนั้น โดยระบุว่า ได้เข้ามาให้การในฐานะพยานที่อยู่ในเหตการณ์ และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของแตงโมด้วย เพราะตนมีความผูกพันและสนิทกับแตงโมมาก เพราะอยู่ในคริสจักรแห่งความสุข รวมถึงแตงโมมักจะมาปรึกษาตนเองในทุกๆเรื่อง
โดยตนตั้งใจมาให้การตามข้อเท็จจริง และขอบคุณทุกคนที่ได้มาให้ความช่วยเหลือในคืนวันเกิดเหตุ ทั้งคุณบีม ศรัณยู คุณต้น กรมเจ้าท่า คุณเปิ้ล นาคร และอาสาสมัครกู้ภัย เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูทุกคน
ซึ่งในวันเกิดเหตุตนมาถึงที่อู่เรือ NBC BOAT CLUB ในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน หลังจากกระติกได้โทรหาตนเป็นคนแรก พร้อมบอกคำแรกว่า “พี่ โมตกน้ำ ช่วยหาคนหน่อย” ซึ่งตอนนั้นกระติกพูดด้วยน้ำเสียงช็อค และตกใจ ตนจึงรีบออกมาที่อู่เรือทันที ยอมรับว่า ตกใจเหมือนกัน และทำอะไรไม่ถูก แต่ก็พยายามถามข้อมูลบางอย่างกับกระติก และได้ถามกระติกว่าได้โทรหา “เบิร์ด” และ “คุณแม่” ของแตงโมหรือยัง ซึ่งเขาก็บอกตามที่เขาให้ข่าว แต่ในส่วนประเด็นรายละเอียดเรื่องคุยกันในรถ ขอไม่ลงรายละเอียด
เมื่อไปถึงอู่เรือจำได้อย่างดีว่าเจอทุกคนที่อยู่ในข่าว (คนบนเรือ) ทุกคนก็อยู่ในอาการตกใจ หน้าแดง เสียงดัง โวยวาย และเสียงแหบ ตนก็เลยเป็นคนพากระติกมาให้ปากคำที่โรงพัก ประกอบกับยอมรับว่า ตนก็ได้อยู่ตามคลิปวงจรปิดจริงจนถึงช่วงเวลาประมาณตี 3 ก่อนจะเป็นคนขับรถของแตงโมไปส่งกระติก โดยในระหว่างทางยอมรับว่ากระติกอยู่ในอาการช็อค และขับรถไม่ไหว รวมถึงมีน้ำตาคลออยู่ตลอดเวลา มีวินาทีที่โทษตัวเอง
ซึ่งสาเหตุที่ไม่ได้ไปที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ในคืนวันนั้น ก็คือ ตอนแรกก็ได้โลเคชั่นมา แต่ไม่ได้ไป เพราะกระติกอ้างว่าตรงนั้นคนเยอะมาก และกลัวโควิด อย่าเพิ่งไปเลย
ส่วนในประเด็นเรื่องการปัสสาวะท้ายเรือนั้น ตนไม่ได้เป็นคนแนะนำอะไรตามกระแสข่าว และกระติกโทรหาตน และพูดถึงข้อมูลที่อ้างว่าไม่ได้เห็นอะไรในเหตุการณ์ ตอนแรกยอมรับว่าเชื่อสนิทใจในคำพูดของกระติก พอไปถึงจริงๆก็รู้สึกเอะใจว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น ประกอบกับหลังจากที่อีกฝ่ายออกมาให้ข่าว ก็ยิ่งไม่เชื่อเลย และทั้งหมดเป็นการบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริงอย่างมาก รวมถึงยังขัดกับสิ่งที่รู้ พร้อมบอกจากใจว่า “รู้สึกเสียใจ เสียความรู้สึก โกรธกระติก” แต่ลึกๆก็ยังรัก และอยากให้พูดในสิ่งที่ตัวเองรู้จริงๆ
.
โดยหลังจากเกิดเรื่องยอมรับว่ากระติกได้ติดต่อมาหา และขอโทษที่ทำให้มีส่วนเกี่ยวข้องจนวุ่นวาย แต่ก็อยากบอกถึงกระติกว่า “สัจจะจะทำให้เป็นไท ความจริงจะปกป้องเราได้”
สำหรับนิสัยของแตงโมเท่าที่สนิทเขาเป็นคนนึกถึงคนอื่นมากกว่าของตัวเอง และเป็นคนที่ห่วงความสวยของตัวเองมาก แต่ไม่ขอออกความเห็นว่าแตงโมจะไปปัสสาวะท้ายเรือจริงหรือไม่ ทุกอย่างได้ให้การไปหมดแล้ว และต้องรอข้อเท็จจริง
ส่วนประเด็นเรื่องว่ารู้จักกับ “คุณเบนซ์ พริกไทย” หรือไม่นั้น ตนอยากชี้แจงว่า รูปถ่ายคู่เป็นการถ่ายกันในงานแต่งงานของญาติตน ซึ่งคุณเบ๊นซ์เป็นรุ่นน้อง และหลังเกิดเรื่องเขาพยายามโทรหาตนตลอด ยืนยันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเป็นญาติกัน ขณะที่คุณโรเบิร์ต ตนก็ไม่รู้จัก และยืนยันในวันนั้น รู้จักกับกระติกเพียงคนเดียว
ทั้งนี้คุณโบ ยังได้ลงรูปของแตงโมเป็นคนแรกเพื่อตามหาหลังเกิดเรื่อง จึงได้ขอรูปจากกระติกและลงรูปไป พร้อมส่งให้กรมเจ้าท่า โดยส่วนหนึ่งคุณบีม ศรัณยู ก็เป็นคนส่งข้อความเสียงแนะนำมา
อย่างไรก็ตามการออกมาให้ปากคำในวันนี้ตนยอมรับว่า รู้สึกกดดัน และกังวล เครียดมาก แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องออกมาพูด ก็เพื่ออยากให้แตงโมได้รับความยุติธรรม ประกอบกับตนก็ได้รอดูคนที่อยู่บนเรือออกมาให้ข้อมูลตามช่องทางต่างๆก่อน และถึงเวลานี้ตนจะออกมาพูดในสิ่งที่เห็นทั้งหมดบ้าง โดยยอมรับว่า ก่อนออกมาพูดในวันนี้มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นเกี่ยวกับการถูกคุกคามเรื่องความเป็นส่วนตัว จึงรู้สึกไม่สบายใจที่มาให้ปากคำ แต่ก็ไม่ค่อยพอใจที่คนบนเรือให้การต่างไปจากข้อเท็จจริง