ไม่ใช่แค่ไทย! โฆษกรบ.แจงทั่วโลกเจอวิกฤตซ้อนวิกฤต สินค้า-พลังงานราคาพุ่ง-เงินเฟ้อ
7 มี.ค. 2565, 14:29
วันนี้ ( 7 มี.ค.65 ) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในปีนี้ ไทยและทั่วโลก เผชิญหน้ากับปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นวิกฤตซ้อนวิกฤตพร้อมกัน คือ วิกฤตไวรัสโควิด-19 วิกฤตเงินเฟ้อ และวิกฤตสงครามยูเครน-รัสเซีย ได้ส่งผลกระทบราคาพลังงานโลก คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้น อาจจะเห็นตัวเลขราคาน้ำมันโลกที่ 120 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล ปัจจุบันน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 106.58 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล เบรนท์ 118.11 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล และเวสต์เท็กซัส 110.07 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล น้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตสินค้าและขนส่ง ก็จะทำให้ราคาสินค้าและค่าขนส่งยิ่งแพงขึ้น กระทบทั้งค่าครองชีพ และภาคการส่งออก รวมทั้งสภาวะเงินเฟ้อที่มาพร้อมกับเงินฝืด จะส่งผลต่อเศรษฐกิจทั้งในระดับครอบครัวและมหภาค ซึ่งเป็นภาวะที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก ไทยเองก็ไม่แตกต่าง เพราะเราเป็นประเทศนำเข้าน้ำมัน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังคงตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรอย่างต่อเนื่อง หลังการประชุมคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งเดินหน้า มาตรการเร่งด่วนใน 3 แนวทางหลัก คือ ลดภาระค่าใช้จ่ายเพื่อดูแลประชาชน บรรเทาภาระหนี้สิน โดยให้ปีนี้เป็น “ปีแห่งการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน” และเร่งการลงทุนภาครัฐ/เอกชน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง ซึ่งในวันพุธที่ 9 มีนาคม นี้ นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อกำหนดมาตรการด้านพลังงาน ซึ่งจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 15 มีนาคม เพื่อเร่งรัดให้มีผลบังคับใช้ เพื่อบรรเทาภาระของประชาชนโดยเร็ว
“ผมอยากขอวิงวอนนักวิเคราะห์ชาวเน็ตทั้งหลาย เข้าใจการขึ้น-ลงของราคาพลังงานโลก หรือการสู้รบ เหล่านี้ล้วนปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของรัฐบาล ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีประชุมหารือกับคณะทำงานเพื่อวางแผนและออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอน ซึ่งต้องอาศัยทุกฝ่าย เอกชน ผู้ประกอบการรวมทั้งประชาชน ร่วมมือกับรัฐบาล ช่วยกันเดินหน้าประเทศ มั่นใจว่า ไทยก็ผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจโลกครั้งนี้ไปได้” นายธนกร กล่าว