เรือนจำกลางอุบลราชธานี เปิดบ้านให้เห็นใส่ในว่า นักโทษที่ถูกคุมขังทุกคน กินและอยู่อย่างมีสุขอนามัย ที่สำคัญกินอิ่ม ทุกมื้อ ในความดูแลปลอดเชื้อโควิด และที่สำคัญ พ่อครัวผู้ปรุงผ่านประสบการณ์มากกว่า 3 ปีขึ้นไป และหากพ่นโทษสามารถออกไปประกอบอาชีพพ่อครัวตามร้านอาหารชื่อดังได้ทันที เพราะมีประสบการณ์ปรุงอาหารขนาดเลี้ยงคนกว่า 5000 คน ทุกวัน เป็นปีๆ 

นายเอกรินทร์ วรรณเวศ ผบ.เรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานี  จัดกิจกรรมเปิดบ้านให้ญาติผู้ต้องได้เข้ามาดูการคุณภาพการจัดเลี้ยงอาหารผู้ต้องขัง และ สร้างความเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขภายในเรือนจำ  โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 โดยมีนายกานต์ กัลป์ตินันท์ นายก อบจ.อุบลราชธานี พร้อมด้วยนายชูวิทย์  พิทักษ์พรพัลลภ สส.พรรคเพื่อไทย จ.อุบลราชธานี  และตัวแทนญาติผู้ต้องขังจำนวนหนึ่ง  ร่วมสังเกตการณ์  ภายในส่วนกระบวนการผลิตอาหารส่งไปยังแดนต่าง ๆ 

โดย นายเอกรินทร์  วรรณเวศ  กล่าวว่าเรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานี  มีภาระกิจเกี่ยวกับการควบคุมและแก้ไขพฤตินิสัยของผู้ต้องขังโดยมุ่งเน้นให้กลับไปเป็นพลเมืองที่ดีของสังคมไม่หวนกลับมาทำผิดซ้ำ  และได้รับการพัฒนาทักษะอาชีพที่สุจริตและสามารถดำรงชีวิตในสังคมภายนอกได้อย่างปกติ  โดยสังคมให้การยอมรับ ตนในฐานะผู้ดูแลเรือนจำได้ให้ความสำคัญในทุกๆ ด้านโดยเฉพาะการดำรงชีวิตภายในเรือนจำของผู้ต้องขัง ทั้งในเรื่องอาหาร และสุขอนามัย  ซึ่งภายในเรือนจำถือว่าเป็นพื้นที่แออัด   ปัจจุบันมีผู้ต้องขังกว่า 6,000 คน อยู่ภายในแดนต่าง  การควบคุมคุณภาพอาหารเพื่อให้ผู้ต้องขังได้รับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนเพียงพอต่อสุขภาพและร่างกาย  จึงเป็นสิ่งสำคัญ  แม้ปีงบประมาณ 2565 เรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานี  จะไดรับการจัดสรรค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อเครื่องบริโภคสำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขังวันละ 52.78  บาทต่อคนต่อวัน   แต่ทางเรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานี  ยังสามารถจัดอาหารให้ผู้ต้องขังครบถ้วนทั้ง 3 มื้อ และสามารถเติมได้จนกว่าจะอิ่ม  ซึ่งปรากฏการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้น  ที่จะให้ผู้ต้องขังทานอาหารแต่ละมื้อแบบเต็มอิ่ม  ไม่ต้องห่วงว่าจะแต่ละมื้อกินข้าวแบบไม่อิ่มท้อง   

สำหรับอาหารทางเรือนจำได้จัดผู้ต้องขังชั้นดี  จำนวน 83 คน  มาดำเนินการทุกขั้นตอนในกระบวนการผลิตอาหาร ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่   สำหรับอาหารที่ปรุงรับประทานในเรือนจำจะต้องไม่ใส่ผงชูรส   ไม่ใช้เนื้อสัตว์บดสำเร็จต้องนำมาบดเอง   ไม่ใช้ลูกชิ้น  หรือ  ไส้กรอก   เพื่อป้องกันการปนเปื้อนแล้วจะเกิดท้องเสีย  หรือ  ความเจ็บป่วยตามมา   โดยในแต่วันเรือนจำใช้ข้าวสาร  ซึ่งเป็นข้าวจ้าวขาว 5 % ในการหุงให้ผู้ต้องขังวันละไม่ต่ำกว่า 2,000 ตัน  วันนี้จึงพร้อมเปิดให้ญาติผู้ต้องขังได้เข้ามาเยี่ยมชม  และให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีว่า  เรือนจำดูแลผู้ต้องขังเป็นอย่างดี  โดยเฉพาะช่วงการระบาดของโรคโควิด 19 มีการฉีดวัคซีน  เพื่อควบคุมการระบาดของโรค   มีขั้นตอนการคัดกรอง  ผู้ต้องขังใหม่ทุกราย  ให้ภายในเรือนจำกลางอุบลราชธานีปลอดโรคโควิด19  100 %