รมช.กลาโหม นำความห่วงใยนายกฯเยี่ยมผู้บาดเจ็บเหตุระเบิดบันนังสตา-เยียวยาเต็มที่
11 มี.ค. 2565, 17:50
วันนี้ ( 11มี.ค.65 ) พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยพล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการ สมช. พล.อ.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้แทนพิเศษรัฐบาลด้านความมั่นคง พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลยะลา อ.เมือง จ.ยะลา เยี่ยมให้กำลังใจ ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 ราย ประกอบด้วย 1.อส.ทพ.ชาติชาย นันทกรปรีดา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 หมู่ที่ 4 ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา 2.นายตูแวมะอุเซ็งจูนิ อายุ 33 ปี ประชาชน อยู่บ้านเลขที่ 128 หมู่ที่ 3 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา 3.นางสาวคอรีเยาะ สะแม อายุ 32 ปี ประชาชน ต.บันนังสตา จ.ยะลา ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิด เจ้าหน้าที่ทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 30 ขณะออกลาดตระเวนด้วยรถยนต์ บริเวณถนนสาย 410 ยะลา-เบตง ตรงข้ามมัสยิดบ้านเตาปูน พื้นที่ บ้านเงาะกาโป หมู่ที่ 3 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา เป็นเหตุให้รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็ก 4 ประตู หมายเลขทะเบียน กฉ 9058 ยะลา ได้รับความเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 10 ราย เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 10 มีนาคม2565 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ได้มอบกระเช้าเยี่ยม และเงินบำรุงขวัญ เพื่อเป็นกำลังใจ ให้กับ อส.ทพ.ชาติชาย นันทกรปรีดา เจ้าหน้าที่ทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 30 และมอบกระเช้าเยี่ยม และเงินบำรุงขวัญ ให้กับนางสาวยุนดี ยูโซ๊ะ (น้าสาวของตูแวมะอุเซ็งจูนิ ) และนางสาวซารีปะ เจ๊ะกา (หลานสาวของนางสาวคอรีเยาะ สะแม) ประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ราย
พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิทย์ วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้เป็นผู้แทน มาเยี่ยม สร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมทั้งให้การดูแลเยียวยา โดยให้ ศอ.บต. ดำเนินการเร่งเข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังได้กำชับให้หน่วยงานความมั่นคง ปรับแผนในการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพื้นที่ ที่เป็นจุดล่อแหลมและมีความเปราะบาง ขณะที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ติดตามความคืืบหน้าการปรับปรุงประสิทธิภาพตามแนวชายแดน โดยเฉพาะเรื่องการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำสุไหงโกลก อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก หากแล้วเสร็จจะช่วยป้องกันอุทกภัยได้
นอกจากนี้ ยังได้หารือในมาตรการการรองรับการเปิดด่านชายแดนของมาลาเซียในวันที่ 1 เมษายน นี้ ทั้งในเรื่องของความมั่นคง และคัดกรองป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้น ตลอดจนแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจตามแนวชายแดน ซึ่งขณะนี้ทุกส่วนมีความพร้อมอย่างมาก เพื่อขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจในพื้นที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง