เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดตัวโครงการ "ครอบครัวเพื่อไทย" ชาวโคราชแห่สมัครเพียบ! นำร่องจังหวัดแรกของประเทศ
13 มี.ค. 2565, 14:52
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่ตลาดซีอีโอโคราช ริมทางหลวงชนบทหมายเลข นม.1120 ถนนสุรนารี 2 ต.หมื่นไวย อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมคณะทำงานเดินทางมาร่วมกิจกรรมการเปิดรับสมัครสมาชิก “ครอบครัวเพื่อไทย” โคราช โดยมี ดร.วัฒนะชัย สืบศิริบุษย์ หรือเสี่ยจิ๋ว แกนนำกลุ่มโคราชเลือดใหม่ ในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส เขต จ.นครราชสีมา และกลุ่มสภากาแฟตลาดประปาร่วมให้การต้อนรับ โดยมีประชาชนชาวโคราชต่างเดินทางมาร่วมยื่นเอกสารสมัครสมาชิกกว่า 400 คน ภายใต้มาตรการคัดกรองโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
นายประเสริฐ เลขาธิการพรรเพื่อไทยได้พบปะพูดคุยและสอบถามสารทุกข์สุขดิบ ต่อมาได้เปิดโอกาสให้ตัวแทนครอบครัว พท.โคราช ขึ้นพูดสะท้อนปัญหาการดำรงชีพ โดยต้องการมีส่วนร่วมการขับเคลื่อนประชาธิปไตยและสนับสนุน พท.ได้จัดตั้งรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาสภาวะวิกฤตซ้อนทั้งโควิดและเศรษฐกิจซบเซา รวมทั้งตัดวงจรสืบอำนาจรัฐบาลและ สว.ที่มาจากการแต่งตั้ง เรียกร้องให้ยุบสภาจัดการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว มิเช่นนั้นทุกคนจะอดตาย
นายประเสริฐ กล่าวว่า โครงการ “ครอบครัวเพื่อไทย” ถือเป็นการสร้างความสุขความอบอุ่นและความรักระหว่างกันและเป็นการเตรียมความพร้อมกิจกรรมครอบครัว เพื่อไทยอีสาน ในวันที่ 20 มี.ค นี้ ที่จังหวัดอุดรธานี ขอเชิญชวนชาวโคราชร่วมสมัครเป็นครอบครัวเพื่อไทย เพื่อสานความสัมพันธ์และสร้างความผูกพันธ์ สามารถสมัครได้ทันทีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เมื่อเป็นสมาชิกแล้วสามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร และแสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางสื่อต่างๆของพรรค
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า โคราชมีพื้นที่ 32 อำเภอ เดิมมีจำนวน ส.ส 14 เขต กกต.ได้ปรับพื่นที่เขตเลือกตั้งใหม่เป็น 16 เขต พรรคเพื่อไทยได้เสริมทัพโดยมีบุคคลหลากหลายสถานะ ทั้งอดีต ส.ส เขต ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) นักธุรกิจรุ่นใหม่ขอเป็นตัวเลือกการเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส เขต เราได้ปรับยุทธศาสตร์การเลือกตั้งใหม่ เพื่อให้ พรรคเพื่อไทยกลับมาทวงตำแหน่ง ส.ส เขต ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบและประเมินคุณสมบัติ เพื่อคัดเลือกรายชื่อเป็นทางการ
ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล พบหลายเรื่องมีความผิดปกติ เมื่อมีหลักฐานการทุจริต เราได้ยื่นเรื่องดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที มิได้หยุดเพียงเวทีอภิปรายเท่านั้น ความเคลื่อนไหวล่าสุดรัฐบาลไม่มีความเป็นเอกภาพ การยุบสภามีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะนี้มีปัญหาคือ 1.เศรษฐกิจ รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าเศรษฐกิจแต่ไม่มีความชำนาญหรือเชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจ 2.สถานการณ์โควิด -19 การรับมือไม่ดีนัก เฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ฉุกเฉิน การแก้ไขปัญหาต่างๆการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนหรือการเยียวยาต่างๆ ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับความยากลำบาก ทำให้รัฐบาลเดินหน้าต่อไปได้ยาก เมื่อมีการเปิดสภาในเดือนพฤษภาคมนี้ พท.จะยื่นญัตติเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที ถือเป็นการซักฟอกรอบสุดท้าย นายประเสริฐ กล่าว.