ศบค.ไฟเขียว! จัดงานสงกรานต์ เล่นน้ำได้ในพื้นที่อนุญาต ห้ามประแป้ง - ปาร์ตี้โฟม
18 มี.ค. 2565, 15:13
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2565 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยภายหลังการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ.ศบค.เป็นประธานว่า สธ.เสนอมาตรป้องกันโรคโควิด-19 ในการจัดงานช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยสามารถจัดได้ แต่ขอให้จัดแบบประเพณีดั้งเดิม คือ รดน้ำดำหัว เป็นต้น หากจัดสันทนาการต้องขออนุญาติก่อน เพราะเป็นการร่วมกลุ่มจำนวนมาก โดยมีมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในการจัดงานช่วงเทศกาลสงกรานต์ ดังนี้
1.การเตรียมตัวก่อนร่วมงาน ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา เข้าร่วมงานสงกรานต์ และกลุ่ม 608 ต้องได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ ประเมินความเสี่ยงของตนเอง หากพบว่ามีอาการ หรือมีความเสี่ยง ขอให้เลี่ยงการเข้าร่วมงาน หรือให้พิจารณาตรวจ ATK ก่อนเดินทาง/ร่วมงานภายใน 72 ชั่วโมง ขณะเดินทางโดยขนส่งสาธารณะ ให้สวมหน้ากากตลิดเวลา ล้างมือบ่อยๆ งดรับประทานอาหารและงดดื่มแอลกอฮอล์ ผู้จัดงาน
และกิจการ/กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานสงกรานต์ให้ลงทะเบียนบนระบบ TSC2+ และประเมินตนเองตามประเภทมาตรการ COVID Free Setting ได้แก่ การจัดกิจกรรมพิเศษ (แสดงคอนเสิร์ต/ดนตรี งานอีเว้นท์ งานเทศกาล มหกรรม) การจัดกิจกรรมรวมกลุ่มในชุนชน ศาสนาสถาน ร้านอาหาร ขนส่งสาธารณะ ฯลฯ การขออนุญาตจัดงานให้เป็นไปตามเขตพื้นที่สถานการณ์ หรือตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร กำหนด สำหรับการจัดกิจกรรมในชุมชนให้แจ้ง ศปก.ต./ศปก.อ ผู้นำชุมชน และกำหนดให้มีมาตรการในการควบคุมกำกับอย่างเข้มงวด
2.ระหว่างช่วงงานสงกรานต์ พื้นที่จัดงานสงกรานต์ ที่มีการจัดเตรียมสถานที่และควบคุมกำกับ อนุญาตให้เล่นน้ำ และจัดกิจกรรมตามประเพณี เช่น รดน้ำดำหัว สรงน้ำพระ การละเล่นการแสดงวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น ขบวนแห่ การแสดงดนตรี โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting และมีการกำกับอย่างเคร่งครัด ห้ามประแป้ง ปาร์ตี้โฟม จำหน่ายและบริโภคแอลกอฮอล์ในพื้นที่จัดงาน กำหนดช่องทางเข้า-ออกจากงาน จัดจุดคัดกรอง และควบคุมความหนาแน่นในพื้นที่จัดงาน (1 ต่อ 4 ตารางเมตร) สวมหน้ากากตลอดเวลา พลเจลแอลกอฮอล์ รักษาระยะห่างตลอดเวลาที่ร่วมงาน
ส่วนพื้นที่สาธารณะไม่มีการควบคุม เช่น ท้องถนน เป็นต้น ห้ามเล่นน้ำ ประแป้ง และปาร์ตี้โฟม กิจกรรมรวมกลุ่มในครอบครัด เช่น รดน้ำดำหัว การรับประทานอาหารร่วมกัน ให้จัดกิจกรรมในที่มีการระบายอากาศได้ดี หรือที่โล่ง ไม่หนาแน่นหรือคับแคบ สวมหน้ากากตลอดเวลา งดกิจกรรมการสัมผัสใกล้ชิด หรือใช้สิ่งของร่วมกัน เลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มร่วมกันเป็นเวลานาน ผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ ควรได้รับวัคซีนให้ครบก่อนร่วมกิจกรรมสังสรรค์ และสัมผัสใกล้ชิดลูกหลาน ผู้ติดเชื้อและผู้สัมผัสเสี่ยงสูงห้ามร่วมกิจกรรม
3.หลังกลับจากงานสงกรานต์ ให้สังเกตุอาการตนเอง 7 วัน โดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรง และผู้ที่จะไปพบปะกับผู้คนจำนวนมาก หากพบว่ามีอาการสงสัยติดเชื้อให้ทำการตรวจ ATK ขอให้หลีกเลี่ยงการพบปะผู้คนจำนวนมากโดยไม่จำเป็น ในช่วงการสังเกตอาการ พิจารณามาตรการ WFH ให้เป็นไปตามความเหมาะสม และการพิจารณาของหน่วยงาน
นายกรัฐมนตรี ขอให้ฝ่ายปกครอง ฝ่ายมั่นคง ร่วมกันทำงานกับสาธารณสุขอย่างเข้มงวดในช่วงของเทศกาล ให้ที่กระทำผิด ฝ่าฝืนให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นชอบ ขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 17) เพื่อให้สามารถมีกลไกบูรณาการของทุกฝ่ายในการควบคุมการแพร่ระบาดไม่ให้ส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถของระบบสาธารณสุขในการเตรียมความพร้อมในการอยู่ร่วมกับโควิด-19 ในระยะยาว ดังนั้นจึงเห็นควรพิจารณาขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณืฉุกเฉินฯ ออกไปอีก 2 เดือน (1 เมษายน – 31 พฤษภาคม)” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว