ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ช่วงเย็นวานที่ผ่านมา ร้อยตำรวจเอกกฤษณะ สระบัว รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี รับแจ้งเหตุพบศพคนกินยาฆ่าตัวตายสองศพ เหตุเกิดที่หมุ่บ้านท่าดินสอพอง หมู่ 7 ตำบลแก่งดสี้ยน อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี หลังรับแจ้ง จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ พร้อมด้วยแพทย์โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุ บริเวณเตียงไม้ที่ตั้งอยู่หน้าบ้าน พบร่างของนางพยุง อายุ 51 ปี นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนเตียงในสภาพสวมเสื้อคอกระเช้าและสวมผ้าถุง ตามร่างกายไม่มีร่องรอยบาดแผลใดๆ พบเพียงซองยาฆ่าแมลงที่ถูกฉีกแล้ว พร้อมแก้วที่มียาฆ่าแมลงอยู่ภายในวางไว้ข้างเตียง นอกจากนี้ ยังพบแก้วอีกใบที่มีการชงกาแฟผสมยาฆ่าแมลงวางไว้บนตู้เย็นด้านข้างเตียงอีกหนึ่งใบ นอกจากนี้ ภายในบ้านบ้าน ยังพบร่างของนางสาวจารุวรรณ ดีหา อายุ 23 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าประตู โดยพบว่าร่างของนางสาวจารุวรรณ ล้มลงไปกระแทกกับประตูกระจกหน้าบ้าน จนกระจกแตกกระจาย แต่ตามร่างกายไม่พบร่องรอยบาดแผลใดๆ พบเพียงคราบยาฆ่าแมลงและคราบน้ำลายบริเวณปากของผู้เสียชีวิตเท่านั้น

สอบถาม เด็กชายธนวัฒน์ ดีหา อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของนางพยุง ผู้เสียชีวิตให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า นางพยุง ผู้เสียชีวิตเป็นแม่ของตน ส่วนนางสาวจารุวรรณ เป็นพี่สาวของตน โดยแม่ของตนมีอาชีพขายพวงมาลัยอยู่บริเวณถนนนานาชาติ ส่วนพี่สาวของตนเป็นผู้ป่วยพิการทางสมอง ไม่สามารถทำงานหรือดูแลตัวเองได้ โดยที่พ่อของตนและพี่สาวคนโตเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน ปัจจุบัน ตนเองอาศัยอยู่กับแม่และพี่สาวที่บ้านหลังดังกล่าวเพียง3คน โดยที่มีแม่ทำงานร้อยพวงมาลัยขาย หารายได้เข้าบ้านเพียงคนเดียว ช่วงปีที่ผ่านมา แม่มักจะบ่นเรื่องของปัญหาหนี้สินที่มีอยู่จำนวนมาก ทั้งเรื่องเงินค่าผ่อนบ้านที่นำไปจำนำไว้กับคนรู้จักและไม่มีเดงินจ่ายค่าดอกจนบ้านกำลังจะถูกยึด รถจักรยานยต์พ่วงข้างก็นำไปจำนำไว้กับบริษัทไฟแนนซ์ นอกจากนี้ ยังต้องส่งเงินกู้นอกระบบหลายวันอีก ทำให้รายได้จากการขายมาลัยไม่เพียงพอที่จะใช้หนี้ทั้งหมด แม่จึงเกิดความเครียดสะสมและบ่นอยากฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้ง กระทั่ง เมื่อช่วงสายวันนี้ แม่หยุดงานไม่ได้ออกไปขายพวงมาลัยตามปกติ ส่วนตนเองก็ออกไปกับกลุ่มเพื่อนตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 11.00 นาฬิกา กระทั่งเวลา 16.00 นาฬิกา เมื่อตนกลับมาถึงบ้านก็พบแม่และพี่สาวนอนเสียชีวิตดังกล่าว