เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



บุกล้อมจับ ! "แรงงานเมียนมา" กว่า 100 คน ฝ่าสายฝนลักลอบข้ามแดนไทยที่ประจวบฯ


22 มี.ค. 2565, 11:39



บุกล้อมจับ ! "แรงงานเมียนมา" กว่า 100 คน ฝ่าสายฝนลักลอบข้ามแดนไทยที่ประจวบฯ




เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.วันที่ 22 มี.ค 65 พันเอก พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่การข่าวจะมีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาร์จำนวนมากลักลอบข้ามแดนมายังฝั่งไทยเพื่อไปขายแรงงาน จึงนำกำลังพลเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมทหารชุดปฏิบัติการข่าวหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอเมืองประจวบตำรวจภูธรเมืองประจวบ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจวบ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 146 ด่านสิงขร ร่วมกันปิดล้อมสกัดกั้นจับรถยนต์หรู 5 คัน พร้อมรถ จยย.1 คัน ขณะกำลังลักลอบขนแรงงานต่างด้าว จำนวนกว่า 100 คน ที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองทางบริเวณช่องทางธรรมชาติ ช่อง 10 ศพ และเทือกเขา 3 ชั้น บ้านมะขามโพรง หมู่ 9 ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ แล้ววิ่งหนีหลบด่านของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จากถนนสายทุ่งเคล็ด-ด่านสิงขร เตรียมเข้าสู่ถนนหนองขาม เส้นทาง อบต.เกาะหลัก-ด่านสิงขร แต่สามารถหลบหนีเจ้าหน้าที่ไปได้ 1 คัน พร้อมพม่าประมาณ 30 คน และคนขับรถนำพา 3 คน โดยเจ้าหน้าที่สามารถร่วมกันสกัดจับ ตรวจยึดรถยนต์ไว้ได้รวม 4 คัน และรถจักรยานยนต์ 1 คัน ประกอบด้วย 1.กระบะ ตอนครึ่ง 2.เก๋งแวน ยี่ห้อ Mitsubishi Pajero สีดำ 3.เก๋งแวน ยี่ห้อ Chevrolet Trailblaze r(เชฟโลเล็ต ไทรบลาสเซอร์) สีขาว 4.กระบะตอนเดียว ยี่ห้อนิสสัน Frontier สีบรอนซ์-ทอง ติดลูกกรงสำหรับบรรทุก และรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน ยี่ห้อ Yamaha m-slaz สีน้ำเงิน พร้อมควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวไว้ได้ทั้งหมด 93 คน พร้อมคนนำพา 2 คน แบ่งเป็นหญิง 9 คน ชาย 82 คน และคนนำพาชายอีก 2 คน อายุระหว่าง 18-46 ปี เดินทางมาจากจังหวัดต่างๆในเมียนมาร์ เช่น ยะไข่ อิรวดี ย่างกุ้ง มันดะเล มะริด พะโค รัฐฉิน ฯลฯ และจะเดินทางไปทำงานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตำบลมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร และประเทศมาเลเซีย โดยส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 มาแล้ว 2 เข็ม โดยได้เสียเงินให้กับนายหน้าผู้นำพา 20,000 - 30,000 บาทต่อคน



สองผู้ต้องหาชาวเมียนมาร์ซึ่งเป็นคนขับรถนำพายอมรับสารภาพว่าตนเองทำงานอยู่ที่ตำบลมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร และได้ขับรถมารับชาวเมียนมาร์ที่บริเวณช่อง 10 ศพ เพื่อจะนำไปส่งที่บริเวณแยกไฟแดงเพชรเกษมเมืองประจวบ จากนั้นจะมีคนมารับช่วงต่ออีกทอดหนึ่ง โดยรับค่าจ้าง หัวละ 300 บาทต่อคน หรือ คันละ 1 หมื่นบาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อว่าอยู่ถึงจังหวัดสมุทรสาคร แล้วขับรถวิ่งมาเพื่อรับจากชายแดนช่องสิบศพมาส่งแค่ที่บริเวณสี่แยกไฟแดงเมืองประจวบ แถมยังใช้เส้นทางสายรองเส้นเพชรเกษม-อบต.เกาะหลักเป็นเส้นทางหลบหนีป้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง โดยใช้ผ้าสแลนสีดำคลุมเลียนแบบรถกระบะบรรทุกพืชผลทางการเกษตรของชาวไร่ โดยเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าจะต้องมีการนำชาวเมียนมาทั้งหมดไปพักรวมไว้ที่บริเวณบ้านพักถนนสาย อบต.เกาะหลัก เพราะสามารถออกสู่ถนนเพชรเกษมได้ง่าย และรอดพ้นสายตาเจ้าหน้าที่จากป้อมยามฝ่ายปกครอง ก่อนที่จะขนลำเลียงแจกจ่ายไปตามสถานที่ต่างๆปลายทาง เช่น กรุงเทพฯ จังหวัดสมุทรสาคร และประเทศมาเลเซีย เป็นต้น เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายเบื้องต้น พร้อมควบคุมตัวแรงงานเมียนมาร์ทั้งหมด พร้อมรถยนต์พาหนะของกลางมาควบคุมไว้ที่ศูนย์คัดแยกเหยื่อค้ามนุษย์ บริเวณด้านหลัง สภ.เมืองประจวบ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

มีรายงานว่า ฝ่ายปกครองได้มีการสั่งห้ามไม่ให้กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา เนื่องจากไม่มีงบประมาณในการจัดหาค่าอาหารมาเลี้ยงดู เพราะที่บริเวณชายแดนประจวบมีบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาร์ลักลอบเข้าประเทศทุกวันคืนละไม่ต่ำกว่า 100-200 คน หากมีการจับกุมได้ก็จะต้องให้แรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าประเทศจ่ายค่าอาหารในการเลี้ยงดูตนเอง


นอกจากนี้ ทราบว่า เมื่อวานที่ผ่านมาทางด้านเจ้าหน้าที่ยังได้จับกุมชาวเมียนมาร์ พร้อมกระเป๋าสัมภาระที่ลักลอบเข้าประเทศได้อีกจำนวน 102 คน แบ่งเป็นชาย 77 คน หญิง 25 คน ภายในไร่สับปะรดใกล้ชายแดนไทย-เมียนมาร์ บริเวณช่องทางธรรมชาติ ช่องหุบผึ้ง หมู่ 5 ตำบลห้วยทราย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยได้ควบคุมตัวจัดทำประวัติส่งผักดันกลับประเทศต้นทางต่อไป

ทั้งนี้ในปัจจุบันยังมีแรงงานจากประเทศเมียนมาร์เดินผ่านช่องทางธรรมชาติหลบหนีเข้าเมืองอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ 5 ตำบลของอำเภอเมือง ล่าสุดพบว่ามีการลักลอบเข้าเมืองในพื้นที่ด้านทิศใต้ที่ ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก และ ด้านทิศเหนือที่ ต.หาดขาม อ.กุยบุรี เนื่องจากผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมในหลายจังหวัดมีความต้องการใช้แรงงานประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดนเรียกร้องให้ฝ่ายความมั่นคงและรัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนกับการใช้แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน 3 สัญชาติ ซึ่งแรงงานเถื่อนที่ถูกจับกุมและถูกผลักดันส่งกลับประเทศต้นทางพบว่าส่วนใหญ่จะลักลอบเดินเท้ากลับเข้ามาในประเทศไทยตามช่องทางธรรมชาติอีกในหลายช่องทางตามแนวชายแดนเขตจังหวัดประจวบฯ






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.