ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา คลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิด บันทึกภาพเหตุการณ์ ขณะที่เด็กชายวัย 6 ขวบ และ 8 ขวบ กำลังนั่งเล่นกับแมวอยู่ภายในบ้าน จู่ๆได้มีสุนัขพันธ์พิทบูลตัวใหญ่ จำนวน 3 ตัว พังประตูมุ้งลวดเข้ามาภายในบ้าน ทำให้เด็กทั้งสองคน ตกใจและรีบวิ่งหนี โดยสุนัขทั้ง3ตัว ทำท่าจะวิ่งเข้าใส่เด็กทั้ง 2 คน ก่อนที่สุดท้าย จะหันไปพุ่งเข้าใส่แมวที่อยู่ใกล้กว่า ทำให้แมวกระโดดหนีออกไปนอกตัวบ้าน ก่อนจะถูกฝูงสุนัขตามไปกัดจนเสียชีวิต

โดยนายสันติ กสินธุรัมย์ อายุ 29 ปี ได้นำคลิปวีดีโอดังกล่าว เดินทางเข้าแจ้งความต่อว่าที่ร้อยตำรวจโทอาชวินทร์ อ่องวงศ์ รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี โดยนายสันติ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อช่วงเวลาประมาณ 17.00 นาฬิกา วันที่ 22 มีนาคม 2565 ซึ่งในช่วงเกิดเหตุ ลูกชายทั้งสองคนของนายสันติ กำลังนั่งเนกับแมวอยู่ภายในบ้าน โดยที่ย่าของเด็กทั้งสองคน กำลังทำกับข้าวอยู่หลังบ้าน จากนั้น จู่ๆได้มีสุนัขพิทบูลล์ จำนวน 3 ตัว พังประตูมุ้งลวดเข้ามาภายในบ้าน ด้วยความตกใจ ลูกชายของนายสันติรีบวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ส่วนสุนัขทั้ง3ตัวตามไปไล่กัดแมวที่กำลังกระโดดหนีออกจากตัวบ้าน จนไปเสียชีวิตอยู่นอกบ้าน

นายสันติ กล่าวว่า ฝูงสุนัขพิทบูลล์ดังกล่าว เป็นสุนัขที่พระลูกวัด ของวัดแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านของตนเป็นคนเลี้ยงเอาไว้ หลังเกิดเหตุ นายสันติ ได้ตามไปพูดคุยกับพระซึ่งเป็นเจ้าของสุนัขเพื่อถามหาความรับผิดชอบ แต่พระเจ้าของสุนัข กลับพูดเพียงว่าสุนัขที่เลี้ยงไว้ ตามไปกัดแมวเท่านั้น ไม่ได้จะไปกัดเด็กแต่อย่างใด เมื่อนายสันติ ได้ไปพูดคุยกับเจ้าอาวาสของวัด ทางเจ้าอาวาสก็กล่าวว่า ได้เคยพูดเตือนพระที่เป็นเจ้าของสุนัขพิทบูลล์นี้แล้วหลายครั้ง ให้ดูแลสุนัขที่เลี้ยงไว้ให้ดี แต่ก็ไม่เคยเชื่อฟัง จนทางหลวงพ่อก็ไม่รู้จะทำยังไง จึงบอกให้นายสันติ นำคลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิด ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้เข้ามาจัดการกับเรื่องดังกล่าว

นายสันติ ยังได้กล่าวอีกว่า ที่เดินทางมาแจ้งความ ไม่ได้คิดจะเอาผิดกับพระลูกวัด แต่อยากให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเข้าไปดูแลและตรวจสอบว่าการที่พระเลี้ยงสุนัขพันธ์พิทบูลล์เอาไว้ในวัดกว่าสิบตัว เหมาะสมหรือไม่ และให้ช่วยพูดคุยกับพระรูปดังกล่าว ให้ดูแลสุนัขที่เลี้ยงไว้ให้ดีกว่านี้ เพราะหากในวันนี้ สุนัขทั้ง3ตัว ไม่ได้ตามไปกัดแมว แต่กลับมากัดลูกของตน อาจจะทำให้ลูกของตนได้รับอันตรายถึงชีวิตได้