นายกฯ ลงนามความร่วมมือ 7 กระทรวง ยกระดับพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต
24 มี.ค. 2565, 14:40
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า วันนี้ (24 มีนาคม 2565) เมื่อเวลา 09.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการบูรณาการความร่วมมือ 7 กระทรวง: การพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต (กลุ่มเด็กปฐมวัย และผู้สูงอายุ) พ.ศ. 2565–2569 ระหว่างรัฐมนตรี 7 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ ศาสตราจารย์ ดร.สัมพันธ์ ฤทธิเดช เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เข้าร่วม สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงฯ บนเวที จำนวน 2 ชุด ได้แก่ การพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต (กลุ่มเด็กปฐมวัย) พ.ศ. 2565-2569 และการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต (กลุ่มผู้สูงอายุ) พ.ศ. 2565-2569 จากนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ด้วยการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต” ว่า ทรัพยากรมนุษย์เป็นหัวใจของการพัฒนาประเทศ รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังคนของชาติในทุกช่วงวัยเป็นอย่างยิ่ง เพราะทุกคนเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศอย่างรอบด้าน ซึ่งการพัฒนาเด็กปฐมวัยนับเป็นรากฐานขั้นต้นที่ต้องได้รับการเติมเต็มศักยภาพ พัฒนาการเรียนรู้อย่างรอบด้าน และเท่าเทียมในทุกมิติ ซึ่งเด็กทุกคนมีพรสวรรค์ ต้องค้นหาให้เจอ เพื่อนำสิ่งที่มีมาพัฒนาเติมเต็มศักยภาพ จึงนับเป็นความท้าทายสำหรับทุกหน่วยงานในการติดตามกำกับดูแล และเอาใจใส่ เพื่อให้เด็กเติบโตมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลง โดยเริ่มตั้งแต่พ่อแม่ ครอบครัว โรงเรียน สังคม ร่วมปลูกฝังให้เด็กมีจิตสำนึกที่ดี เผื่อแผ่ แบ่งปัน นำไปสู่การเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของสังคม และต้องสร้างทัศนคติที่ดีของคนในสังคมที่มีต่อผู้สูงอายุ เพราะบุคคลกลุ่มนี้เป็นบุคลากรที่มีศักยภาพ สามารถพึ่งพาตนเองได้ และยังเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศที่สามารถขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ เพื่อความพร้อมในการก้าวเข้าสู่ประเทศสังคมสูงวัยได้อย่างเต็มภาคภูมิ ซึ่งการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง 7 กระทรวงในวันนี้ นับเป็นการบูรณาการเชื่อมโยงการทำงานตามนโยบายของรัฐบาลและแผนยุทธศาสตร์ต่าง ๆ สู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งยังเป็นการยกระดับการขับเคลื่อนการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิตให้มีศักยภาพสูง มีความพร้อมต่อการดำเนินชีวิตในศตวรรษที่ 21 และเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ
นายกรัฐมนตรี ยังได้เน้นย้ำถึงแนวทางการพัฒนาผู้สูงอายุ 4S ประกอบด้วย 1. Social Participation ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในสังคม 2. Social Security ส่งเสริมความมั่นคง ปลอดภัย 3. Strong Health ส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง และ 4. Smart Digital and Innovation ส่งเสริมเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมอย่างชาญฉลาด รวมทั้งการพัฒนาเด็กปฐมวัย 5H ประกอบด้วย 1. Heart จิตใจดี มีวินัย 2. Head เก่งคิด วิเคราะห์เป็น 3. Hand ใฝ่เรียนรู้ มีทักษะ 4. Health สุขอนามัยดี สุขภาพแข็งแรง และ 5. Hi-tech ทันสมัย ก้าวหน้า รู้เท่าทันเทคโนโลยี เพื่อให้เด็กมีการเจริญเติบโตเต็มศักยภาพ พัฒนาการสมวัย มีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้รับบริการและคุ้มครองอย่างทั่วถึงเท่าเทียมตามมาตรฐาน ภายใต้กรอบการบูรณาการความร่วมมือการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต โดยทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันสร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจเพื่อก่อให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาให้บรรลุเป้าหมาย ร่วมกันสร้างหลักคิดที่ถูกต้อง สร้างความรัก ความสามัคคี รวมทั้งการเปิดช่องทางให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการบริการภาครัฐให้ได้อย่างเพียงพอ ทั่วถึง เพื่อให้ประชาชนอยู่รอด พ้นกับดักรายได้ปานกลาง อย่างพอเพียง และยั่งยืน
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคน ที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนในระดับปฏิบัติ และเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาคนทุกช่วงวัย ร่วมมือร่วมใจกันผลักดันให้เกิดการพัฒนาเด็กปฐมวัยและผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพในทุกมิติ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประเทศในระยะยาวที่จะต้องร่วมมือกันสร้างสรรค์พัฒนาสังคมไทย ซึ่งหลายอย่างมีความก้าวหน้ามากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อันเกิดจากความร่วมมือร่วมใจกันของทุกคน โดยรัฐบาลมุ่งดำเนินงานทุกอย่างเพื่อประชาชนและประเทศชาติโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมนิทรรศการ “การพัฒนาคนช่วงชีวิต: เด็กปฐมวัย สู่ วัยผู้สูงอายุ” พร้อมกล่าวทักทายเด็กปฐมวัยที่มาร่วมงานซึ่งมาจากโรงเรียนอำพรไพศาล อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และตัวแทนผู้สูงอายุจากชมรม อบต.ท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีรับมอบภาพวาด “ของขวัญจากใจ” จากตัวแทนเด็กปฐมวัย และภาพลายปัก “เศรษฐกิจพอเพียง”จากตัวแทนผู้สูงอายุ เพื่อแสดงความขอบคุณต่อนายกรัฐมนตรีด้วย