จากกรณีผู้ใช้ไลน์ชื่อว่า ณัฐรภา  ได้แจ้งเบาะแสกับทางกลุ่มไลน์ ไล่ล่าตาสับปะรด 1 สภ.เมืองสระบุรี ว่า  ‘’ มีเรือน่าสงสัยค่ะ ขนของจากบ้านไหนไม่แน่ใจแต่เอาของขึ้นมาที่ท่าน้ำศาลเจ้าพ่อปากครอง ‘’  เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองสระบุรีได้รับทราบ จึงได้ให้ตำรวจสายสืบของสภ.เมืองสระบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่ ศาลเจ้าพ่อปากครอง ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี

เมื่อไปถึง ได้กระจายกำลังค้นหาคนพายเรือในบริเวณดังกล่าว ได้พบชาย 2 คน นั่งตกปลาอยู่ พบเหล็กรั้วกองอยู่ ประมาณ 3 ท่อน ยาวประมาณท่อนละ 3 เมตร  จึงได้ตรวจสอบกับคนหาปลา ได้บอกว่า เป็นของ นายเอ๋ ซึ่งตอนนี้กำลังพายเรือไปเอาของอีกรอบนึง   เจ้าหน้าที่จึงได้ดักรอ จนนายเอ๋พายเรือกลับมา โดยบรรทุกแผงตะข่ายรั้วใส่เรือมาด้วย เป็นเรือเล็กสีแดง ที่เอาไว้สำหรับหาปลา เจ้าหน้าที่จึงได้ลงไปแสดงตัวและตรวจค้น พบ มีอุปกรณ์หลายอย่าง เช่น มีด ขวาน เลื่อย และอื่นๆ จึงได้ทำการควบคุมตัว นายเอ๋ หรือ นาย ประเสริฐ พายงาม อายุ 37 ปี เป็นคน จ.ปทุมธานี  เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวลักทรัพย์ แต่นายเอ๋ ให้การปฏิเสธว่า มีคนจ้างให้ไปขนเที่ยวละ 100 บาท แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนคนหาปลาแถวนั้นว่า นายเอ๋เป็นคนจรจัด มาอาศัยกลางเต็นท์นอนอยู่ข้างศาล ไม่มีหัวนอนปลายเท้า และเป็นคนติดยาบ้า และน่าจะมีอาการสติไม่สมประกอบ เนื่องจากเสพยาบ้าเยอะ จนพวกคนตกปลาไล่ออกจากพื้นที่ไปแล้วหลายครั้ง ซึ่งนายเอ๋ หรือ นาย ประเสริฐ พายงาม ชอบลักขโมยของแถวบริเวณนั้น ส่วนที่บอกว่ามีคนจ้างไปลากของ ไม่จริง เพราะไม่มีใครมาจ้างหลอก เป็นของนายเอ๋เอง และไม่รู้ว่าเอามาจากที่ไหน   เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวขึ้นเรือพร้อมของกลาง ไปที่สภ.เมืองสระบุรี เพื่อไปสอบสวนและดำเนินคดีต่อไป  

นายเอ๋  เล่าว่า ตนไม่มีปัญญาลากมาเพราะน้ำมันแรง ก็เลยยกขึ้นมาแต่กว่าจะยกขึ้นมาได้ เอามาแค่รอบเดียว  เพราะมีแค่แกลอนอันเดียว อยู่ตรงโค้ง น่าจะลอยมาประมาณ 1 ชั่วโมงได้แล้ว มีคนบอกว่า ให้ไปลากกลับมาให้หน่อย ถ้าลากกลับมาได้ จะให้เงิน 100 บาท แต่คนที่จ้างตอนนี้หายไปแล้ว เพราะเมื่อตอนเช้ามืดเขายังอยู่ ตนก็คิดว่าแป็ปเดียว แต่มันไม่แป็ปเดียวเพราะว่ามันหนัก  ตนพายเรือไปตั้งแต่เช้า แต่ไม่มีปัญญา เพราะมันลอยไปกับน้ำ จึงได้ผูกเชือกไว้ก่อน และค่อยหาวิธีเอากลับมา เพราะเขาจ้างไปลากมา ของมีไม่เยอะ แถมน้ำก็ลึกขายังไม่ถึงดินเลย เมื่อก่อนตนเป็น อส.อยู่เจริญทรัพย์ ส่วนทุกวันนี้กลางเต้นท์นอน เข้าหาธรรมชาติมาพักใหญ่แล้ว ตนไม่มีลูกเมียอยู่คนเดียวมานานแล้ว อยู่ที่นี่มา 2-3 ปีได้ 

คนหาปลา เล่าว่า เขาพึ่งมาอยู่ได้ไม่ถึงปี ไม่รู้ว่ามีนิสัยยังไง เพราะตนไม่ค่อยได้ยุ่งเกี่ยว มีแต่ด่ามันอย่างเดียว ไม่ได้ตกปลาและไม่ได้อยู่ในกลุ่มตนเลย เรือเขามาหาปลา และเอาผูกไว้อยู่ที่นี่ และมันมาลักของเขาไป โดยที่เจ้าของไม่รู้ เพราะเจ้าของทำงานอยู่ชลประทาน บ้านตรงนี้ก็หายไป 1 ลำแล้ว มันก็ลักของเขาไป  ตนคิดว่ามันคง ติดของ เพราะ สมองมันไม่มีอะไร มันบ้าหมดแล้ว พูดเองเออเองคนเดียว ตนก็บอกว่า  เฮ้ย ถ้าแบบนี้มันไม่ใช่แล้ว  อย่ามาอยู่กับตนเลย เพราะไม่อยากให้มันมายุ่ง ไม่เอาแล้ว เพราะเรือตนเอาไว้หากินและหาปลา และตนก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับมัน แถมยังด่าซ้ำเติม และผู้ใหญ่บ้านก็ได้ไล่มันไปน่าจะโดนจับไปบำบั

นางณัฐรภา เจตินัย อายุ 58 ปี (ผู้เห็นเหตุการณ์) เล่าว่า วันนี้ที่บ้านได้มีการทำบุญกลางบ้าน ไหว้เจ้าที่เจ้าทางและจะมีการจุดประทัดที่ท่าน้ำ ระหว่างที่จุดประทัดเสร็จแล้ว เรือลำนี้ได้พายมาด้วยความเร็ว ตนก็เอ๊ะใจ สงสัยว่าไปเอาเรือของใครมา เพราะบ้านตนอยู่ติดริมน้ำ ก็จะเห็นเหตุการณ์เหล่านี้ เวลาเรือผิดปกติหรือเรือแปลกๆ ถ้าเวลาไปตกปลาหรือหาปลา ก็จะมีแค่เบ็ดและข่ายหรือต่างๆ แต่อันนี้ไม่ใช่ เป็นเรือขนของมา และตนก็เห็นพฤติกรรมแบบนี้มาหลายครั้งพอสมควร บางทีก็ทัน บางทีก็ไม่ทัน แต่วันนี้หลานชายอยู่พอดี จึงได้ให้ถ่ายรูปไว้ และส่งให้ตน ในส่วนตัวสงสัยผิดปกติว่าไปเอาของบ้านใครมา น่าจะเป็นระแวกริมน้ำ แต่ไม่รู้ว่าเป็นบ้านใคร และรู้สึกเป็นห่วงเจ้าของบ้านว่า เขาจะรู้ไหมว่าของตัวเองหาย และในส่วนหนึ่งตนอยู่ในกลุ่ม ‘’ไล่ล่าตาสับปะรด’’ ของเทศบาลเมืองสระบุรีด้วย ในกลุ่มประกอบไปด้วย ตำรวจ นักข่าว และหลายๆส่วนที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ก็พยายามจะแจ้งเบาะแสต่างๆที่อยู่ในระแวกริมน้ำ  ทั้งตำรวจและนักข่าวไวมาก ไม่นานเท่าไหร่ก็มาจับได้ทัน และได้ของกลางเป็นที่เรียบร้อย