"อบจ.สุรินทร์" พร้อมจัดงานบุญประเพณีขึ้นเขาสวาย เคาะระฆัง 1,080 ใบ ไหว้ 9 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลังหยุดมา 2 ปี
29 มี.ค. 2565, 08:43
วันนี้ ( 28 มีนาคม 2565) ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ อ. เมือง จ. สุรินทร์ นายสุวพงษ์ กิติภัทรย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยนายพรชัย มุ่งเจริญพร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ และคณะกรรมการจัดงานประเพณีขึ้นเขาสวาย ประจำปี 2565 ร่วมประชุมเพื่อซักซ้อมความเข้าใจในการเตรียมความพร้อมในการจัดงานประเพณีขึ้นเขาสวาย ประจำปี 2565 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
สำหรับงานประเพณีขึ้นเขาสวาย หรือวนอุทยานพนมสวาย ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลนาบัว อ. เมืองจ. สุรินทร์ เป็นประเพณีของชาวสุรินทร์ ปฏิบัติติดต่อกันมาแต่โบราณ โดยการเดินขึ้นเขาสวาย เพื่อไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ 9 สถานที่ และเคาะระฆัง 1,080 ใบ ซึ่งจะเริ่มขึ้นเมื่อถึงวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 5 ของทุกปี ปีนี้ตรงกับวันที่ 2 เมษายนนี้ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตตัวเองและครอบครัวให้อยู่เย็นเป็นสุขปราศจากโรคภัยไข้เจ็บไม่เบียดเบียน ในการกราบไหว้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ 9 ประการ ประกอบด้วย กาบไหว้ พระใหญ่หรือพระพุทธสุรินทรมงคล รอยพระพุทธบาทจำลอง สถูปบรรจุอัฐิหลวงปู่ดูลย์ อตุโล พระพุทธรูปองค์ดำ หลวงปู่สวน ปราสาทหินพนมสวาย ศาลเจ้าแม่กวนอิม เต่าหินศักดิ์สิทธิ์ สระน้ำศักดิ์สิทธิ์ และร่วมเคาะระฆัง 1, 080 ใบ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ที่ผูกพันกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวสุรินทร์มาแต่โบราณ
นายพรชัย มุ่งเจริญพร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่จังหวัดสุรินทร์ ที่จะเป็นจังหวัดนำร่องประกาศโรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น และเป็นนิมิตหมายที่ดีในการที่จะเปิดบ้านเปิดเมือง ซึ่งวันที่ 2 เมษายน 2565 นี้ จังหวัดสุรินทร์ได้กำหนดจัดงานประเพณีที่สำคัญของชาวสุรินทร์ขึ้น เป็นงานประเพณีประจำปีที่จัดขึ้นในทุกปี คืองานประเพณีขึ้นเขาสวาย เพื่อขึ้นกราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนเขาสวาย หลังจากที่สถานการณ์โควิค-19 ได้ระบาด ทำให้ต้องงดจัดงานมาเป็นเวลา 2 ปี ในปีนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดงาน โดยยืนยันว่าทุกอย่างมีความพร้อมในการจัดงาน ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ได้มีการจัดงานในรูปแบบตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด ตามมาตรการของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัด ก็ขอเชิญชวนชาวสุรินทร์และนักท่องเที่ยวจังหวัดใกล้เคียงได้มาเที่ยว และกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นสิริมงคล
ในขณะเดียวกัน ในส่วนแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ได้กำหนดแผนพัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยวไว้ใน 3 รูปแบบ ซึ่งจะต้องขับเคลื่อนให้เป็นผลให้ได้ในระยะเวลาที่ตนบริหารอยู่คือ เรื่องของช้าง,การส่งเสริมด้านกีฬามวย ซึ่งจังหวัดสุรินทร์ถือว่ามีบุคคลที่สร้างชื่อเสียงด้านกีฬาให้โด่งดังไปทั่วโลก เช่นบัวขาว หรือนักแสดงอย่างจาพนม จะต้องนำเขาเหล่านั้นมาเชิดชูเกียรติและเป็นแบบอย่างส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านกีฬาศิลปะมวยไทย ให้นักท่องเที่ยวรู้จักและมาท่องเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ เป็นไปได้จะผลักดันให้ศิลปะมวยไทยเข้าไปอยู่ในคำขวัญสุรินทร์อีกด้วย และสุดท้ายคือรูปแบบขแมร์ชนพื้นเมืองสุรินทร์ เป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของชาวสุรินทร์ ซึ่งเป็น 3 รูปแบบที่ต้องผลักดันส่งเสริมให้เกิดขึ้นในช่วงที่ตนเข้ามาบริหารต่อไป