นายกฯ ปลื้มการลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านแรงงานไทย-ซาอุดีอาระเบีย ชัดเจนผลสำเร็จเป็นรูปธรรม
29 มี.ค. 2565, 10:17
วันนี้(29 มี.ค. 65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมกรณีที่วานนี้ (28 มีนาคม 2565) กระทรวงแรงงานของไทยได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านแรงงานร่วมกับกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมซาอุดีอาระเบีย โดยนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานของไทย และ นายอะห์หมัด บิน สุไลมาน อัลรอยิฮี (H.E. Eng. Ahmad Sulaiman ALRajhi) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมซาอุดีอาระเบีย ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านแรงงาน จำนวน 2 ฉบับ ด้วยกัน ได้แก่ 1. ความตกลงว่าด้วยการจัดหาแรงงานระหว่างกระทรวงแรงงานแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และ 2. ความตกลงว่าด้วยการจัดหาแรงงานในบ้านระหว่างกระทรวงแรงงานแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
นายธนกรฯ กล่าวว่า ความตกลงที่ได้ลงนามนี้ ให้ความสำคัญกับการจัดหาแรงงานไทยไปทำงานในประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ปกป้องคุ้มครองสิทธิของแรงงานและนายจ้าง รวมถึงการบังคับใช้กฎระเบียบ สัญญาจ้างงานระหว่างกันที่เป็นธรรม แรงงานได้รับค่าจ้าง สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย ซึ่งการลงนามครั้งนี้ เป็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมจากการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25-26 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา เนื่องจากฝ่ายซาอุดีอาระเบียมีความต้องการแรงงานไทย และความร่วมมือนี้จะเป็นประโยชน์กับพี่น้องชาวไทยที่ต้องการเดินทางไปทำงานที่ซาอุดีอาระเบีย ถือเป็นผลประโยชน์ร่วมกันจากการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบีย เพราะเชื่อมั่นว่ายังมีโอกาสและช่องทางเพิ่มการทำงานร่วมกันในอีกหลายมิติ ซึ่งจะส่งผลประโยชน์ให้กับประเทศ และประชาชนไทยอีกมาก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีไม่เพียงต้องการให้ประชาชนไทย และแรงงานที่ตรงกับความต้องการของซาอุดีอาระเบียมีงานทำ มีรายได้เท่านั้น แต่ต้องการให้พี่น้องแรงงานชาวไทยได้รับการดูแลอย่างปลอดภัย ได้รับการคุ้มครอง ได้พัฒนาทักษะซึ่งจะเพิ่มโอกาสให้แรงงานไทย และประเทศไทยอีกด้วย ทั้งนี้ ขอบคุณกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขานรับนโยบายรวดเร็วเห็นผลสำเร็จเป็นรูปธรรม