วันนี้ 4 เม.ย. 65 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ร้อยตำรวจโทธิติ นกจันทร์ รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรพนมทวน รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 147 หมู่ 6 ตำบลดอนตาเพชร อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนาวุธ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรีและแพทย์เวรโรงพยาบาลเจ้าคุณไพบูลย์พนมทวน เดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุ พบร่างของนายสมภพ น้ำใจตรง อายุ 41 ปี เจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บริเวณแปลงพืชผักสวนครัวด้านหลังบ้าน ตรวจสอบสภาพศพพบมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 11 มิลลิเมตรเข้าที่บริเวณกระดูกก้นกบทะลุออกขาขวา จำนวน 1 นัด และที่บริเวณกกหูขวา ขมับซ้ายและใบหน้า อีก 4 นัด

ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นหญิง ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นางเตือนใจ ชำนาญเรือ อายุ 55 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าสะใภ้ของผู้เสียชีวิต โดยในระหว่างถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปสอบปากคำ ผู้ก่อเหตุยังคงร้องไห้ด้วยความเสียใจไม่หยุด เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปสงบสติอารมณ์ภายในรถสายตรวจ ก่อนควบคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรพนมทวนต่อไป

นายเฉลิมชัย ชำนาญเรือ อายุ 55 ปี สามีของผู้ก่อเหตุและเป็นน้าของผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงมูลเหตุที่นำมาสู่เหตุสลดในครั้งนี้ว่า นายสมภพ ผู้เสียชีวิตเป็นหลานชายแท้ๆของตน ซึ่งมีความสนิทสนมรักใคร่กันดี ก่อนหน้านี้นายสมภพแต่งงานมีครอบครัวอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต กระทั่งเมื่อประมาณ 5 เดือนก่อน นายสมภพได้เลิกรากับภรรยาและกลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดในอำเภอพนมทวน โดยอยู่บ้านติดกับนายเฉลิมชัยและภรรยา ในช่วงแรกก็ไม่มีปัญหาอะไร กระทั่ง นายเฉลิมชัยและภรรยา ตัดสินใจสร้างบ้านอีกหลังใกล้กับบ้านนายสมภพ ซึ่งนายสมภพได้ขอให้นายเฉลิมชัยและภรรยา สร้างรั้วบ้านให้เรียบร้อยก่อนจึงค่อยสร้างบ้าน เพื่อป้องกันปัญหาการรุกล้ำที่ดิน แต่นายเฉลิมชัยและภรรยาเห็นว่า ไม่จำเป็น เพราะเป็นบ้านญาติที่มีความสนิทสนมกันอยู่แล้วจึงไม่น่าจะมีปัญหา ทำให้นายสมภพ เกิดความไม่พอใจและมีปากเสียงกับนางเตือนใจ ภรรยาของนายเฉลิมชัยเรื่อยมา หนักข้อจนถึงบางครั้ง

นายสมภพ จะเปิดเพลงเสียงดังในช่วงกลางดึก ทำให้นางเตือนใจและลูกสาวที่อยู่ในบ้านหลังใหม่ที่ปลูกติดกับบ้านสมภพหนวกหูจนนอนไม่หลับ บางครั้ง นายสมภพก็จะเอาชะแลงมาทุบกำแพงส่งเสียงดังรบกวน แม้นายเฉลิมชัยและภรนรยาจะไปแจ้งความ แต่ก็แก้ปัญหาได้แค่ชั่วคราว จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแนะนำให้นายเฉลิมชัย ติดกล้องวงจรปิดที่บ้าน เพื่อบันทึกภาพพฤติกรรมการก่อกวนของนางสมภพเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีเอาผิด ทำให้นายสมภพ หยุดพฤติกรรมก่อกวนไปได้ระยะหนึ่ง

กระทั่ง เมื่อช่วงเวลาประมาณตีสาม ของวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา นางเตือนใจสังเกตเห็นว่ากล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ข้างบ้านพังเสียหาย จึงไปเปิดเช็คภาพจากกล้องวงจรปิดย้อนหลังดูและเห็นว่ามีคนนำเอาเหลียมขอ มาเกี่ยวกล้องวงจรปิดจนพังเสียหาย ทำให้นางเตือนใจไปต่อว่าและมีปากเสียงกับนายสมภพอย่างรุนแรง เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ก่อนที่นางเตือนใจจะใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงนายสมภพถึง 5 นัด กระสุนถูกนายสมภพเข้าที่จุดสำคัญ จนนายสมภพวิ่งหลบหนีเข้าไปในบ้านและไปนอนเสียชีวิตอยู่ด้านหลังบ้านในที่สุด นายเฉลิมชัยรับว่า ปืนที่นางเตือนใจใช้ก่อเหตุเป็นปืนของตน ที่นางเตือนใจนำไปเก็บไว้ เพราะกลัวว่าตนจะใช้ปืนไปยิงนายสมภพ ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าสุดท้ายจะเป็นนางเตือนใจที่ใช้ปืนกระบอกดังกล่าวยิงนายสมภพจนเสียชีวิต เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนางเตือนใจไปดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่น ซึ่งหากพิจารณาพฤติกรรมการก่อเหตุแล้ว เข้าข่ายความผิดใดเพิ่มเติมก็จะได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป