หอการค้า จ.นครราชสีมา ออกแถลงการณ์ หลังถูกร้องเรียน ยันทุกอย่างเป็นไปอย่างเที่ยงธรรม
6 เม.ย. 2565, 19:00
สืบเนื่องจากการที่มีข่าวสารข้อมูลปรากฏทางสื่อออนไลน์ สื่อสิ่งพิมพ์ เกี่ยวกับหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ในทางที่อาจจะก่อให้เกิดการเข้าใจผิด คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง และอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายกับหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา นอกจากนั้นยังมีกลุ่มพิทักษ์องค์กรหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาได้ร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาด้วย
คณะกรรมการหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาชุดบริหารปัจจุบัน และคณะกรรมการตรวจสอบภายในหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา จึงได้จัดให้มีการประชุมตรวจสอบข้อมูล และเอกสารความเป็นมาในประเด็นที่ปรากฏเป็นข่าวดังกล่าวอย่างละเอียด เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2565 ณ หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา การประชุมครั้งนี้ได้มีการประสานเรียนเชิญผู้ร้องเรียน กลุ่มพิทักษ์องค์กรหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาเข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อมาให้ข้อมูล และชี้แจงรายละเอียดที่เกิดขึ้น แต่กลุ่มพิทักษ์องค์กรหอการค้าฯ แจ้งกลับมาทาง LINE ว่าขอยกเลิกการนัดหมาย เนื่องจากผู้ลงชื่อทั้ง 4 คนได้ประชุมลงมติว่าไม่ขอร่วมประชุม
การประชุมร่วมกันของคณะกรรมการหอการค้าฯ ชุดปัจจุบัน และคณะกรรมการตรวจสอบภายในฯ ที่ประชุมมีมติว่า
1. จากการตรวจสอบเอกสาร ตลอดจนประเพณีปฏิบัติที่ผ่านมาแล้วหลายสมัยพบว่า เป็นการบริหารหอการค้าฯ ตามปกติของคณะกรรมการที่ผ่านมาหลายสมัย
2. ในกรณีโครงการพันธมิตรบริจาคเงินเพื่อช่วยการบริหาร เป็นโครงการใหม่ที่คณะกรรมการชุดก่อนได้ดำเนินการ ส่วนของเงินบริจาคที่ได้ยกมาเป็นประเด็นข้อสงสัยว่า คณะกรรมชุดที่ผ่านมาไม่ได้เรียกเก็บเงิน บริจาคที่คงค้าง โดยปราศจากเหตุผล และบางท่านคิดเลยไปถึงว่าอาจทำผิดข้อบังคับของหอการค้า ซึ่งความเป็นจริง คือ โครงการพันธมิตรที่ นายชัชวาล วงศ์จร ได้คิดโครงการขึ้น โดยขอความสนับสนุนจากบริษัทห้างร้านต่างๆ ที่เคยมีความสัมพันธ์ที่ดี และได้ขอบริจาคมาเป็นเวลา 4 ปี ซึ่งได้มีการบริจาคต่อเนื่องกันมา จนเข้าปีที่ 4 ได้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ผู้บริจาคบางรายไม่สามารถบริจาคเป็นเงินสดต่อได้ แต่ขอบริจาคเป็นการใช้บริการห้องประชุมแทน และทางหอการค้าได้ใช้บริการดังกล่าว คณะกรรมการที่เข้าร่วมประชุมพบว่า ผู้บริจาคได้บริจาคเงินตลอดมาเป็นเวลา 3 ปี เมื่อเกิดปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปีที่ 4 จึงมีการเปลี่ยนแปลงการบริจาคไปบ้าง ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้
3. ผู้เข้าร่วมประชุมใคร่ครวญไตร่ตรอง และมีความเห็นพ้องต้องกันว่า เงินที่ยังไม่ได้รับบริจาคจึงยังไม่ใช่เงินของหอการค้า ความจริงก็คือ กรรมการชุดก่อน นายชัชวาลได้รับมอบภารกิจของหอการค้า และเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งไม่เพียงพอต่อการบริหารหอการค้าฯ ตลอดปี จึงได้คิดโครงการพันธมิตรหอการค้า และขอเงินบริจาคเป็นปีๆ จากผู้ที่สนับสนุนเพื่อใช้ในการบริหารภารกิจหลายกรณี โดยบริจาคให้คณะกรรมการในเวลาที่
แตกต่างกัน เมื่อได้รับเงินมาครั้งใดจึงจะนำเงินจำนวนนั้นเข้าบัญชีหอการค้า เพื่อลงบัญชีงบการเงิน ให้ “ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต” ได้รับทราบ และลงบัญชีอย่างเป็นทางการ หลังจากนั้นจึงถือเป็นเงินของหอการค้าไว้ใช้ในการทำกิจกรรม การบริจาคของพันธมิตร ผู้เข้าใจภารกิจของหอการค้า เป็นไปด้วยดีเป็นเวลา 3 ปี จนกระทั่งปีที่ 4 เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากภัยโควิด ซึ่งได้รับผลกระทบไปทั่วประเทศ รวมทั้งผู้บริจาคเงินบางรายเป็นจำนวนเงิน 700,000 บาท จากที่เคยได้รับมาประมาณปีละ 1,200,000 – 1,300,000 บาท ภายใต้วิกฤตโควิดจึงเป็นโจทย์ให้กรรมการชุดเก่าได้จัดประชุมรับฟังคำร้องของผู้ที่ไม่สะดวกในการบริจาค ที่ประชุมคณะกรรมการชุดเก่ามีความเข้าใจต่อทุกฝ่ายในท่ามกลางภาวะวิกฤต จึงได้นำเรื่องเข้าที่ประชุม ปรึกษาหารือกัน และเข้าใจภาวะของผู้บริจาคในสภาวะปัญหาภัยโควิดดังกล่าว หากไม่สรุปให้ที่ประชุมรับทราบก็จะเกิดความเข้าใจผิดว่า ผู้บริจาคเป็นหนี้หอการค้าฯ และจะเป็นปัญหาต่อคณะกรรมการชุดใหม่
4. ในเวลาต่อมา มีผู้ไม่เข้าใจโครงการพันธมิตรเพื่อช่วยเหลือการบริหารหอการค้าฯ ให้ลุล่วงสำเร็จไปด้วยดีตามวัตถุประสงค์จากการบริจาค และจากโครงการพันธมิตรที่นายชัชวาลเป็นผู้ริเริ่ม ทำให้มีเงินเหลือจากการบริหารอีก 3,000,000 บาท มอบให้คณะกรรมการชุดที่มารับภารกิจต่อ อันเป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย
5. ส่วนเรื่องการร้องเรียนอื่นๆ เช่น การให้เจ้าหน้าที่หอการค้าตำแหน่งสูงถือเงินสดไว้ก็เป็นเหตุการณ์ที่ปฏิบัติตามกันมา ยกเว้นการจัดงานที่มีออกาไนเซอร์รับงานไปก็อาจไม่มีความจำเป็น ซึ่งเคยเกิดขึ้นในการบริหารของประธานหอการค้าบางท่านในอดีต ที่ประชุมสรุปว่า หากยังไม่มีความเข้าใจ หรือเข้าใจที่คลาดเคลื่อนก็สามารถสอบถามประธานหอการค้าคนปัจจุบัน และประธานคณะกรรมการตรวจสอบ ที่ตรวจสอบ และหาข้อมูลตามข้อเท็จจริงโดยปราศจากอคติใดๆ
6. จึงขอถือโอกาสนี้ขอบคุณท่านที่เป็นห่วง ตลอดจนท่านที่มีกรณีสงสัยต่างๆ คณะกรรมการขอยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปอย่างเที่ยงธรรม เป็นความสัมพันธ์อันดี อันเป็นต้นแบบของการบริหารหอการค้า ใช้แนวทางการบริหารสโมสรกีฬา ส่วนบางท่านที่อาจจะทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ คณะกรรมการชุดนี้ก็พร้อมที่จะไกล่เกลี่ยผู้เกี่ยวข้องให้เลิกแล้วต่อกัน มีทัศนะคติที่ถูกต้องต่อหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เป็นไปตามวัฒนธรรมอันดีของสังคมไทย ให้ร่วมกันอยู่เป็น และเป็นสุข ไม่ขัดแย้งเหมือนสังคมไทย และสังคมโลกที่เป็นปัญหาในปัจจุบัน
ขอขอบพระคุณท่านที่มีความปรารถนาดี และห่วงใยต่อหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาตลอดมา