7 วันอันตราย "เทศกาลสงกรานต์" ประจำวันที่ 16 เม.ย. 65 บาดเจ็บ 263 คน เสียชีวิต 44 ราย
16 เม.ย. 2565, 13:58
วันนี้ (16 เม.ย. 65) เวลา 10.30 น. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2565 สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 15 เมษายน 2565 เกิดอุบัติเหตุ 277 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 263 คน ผู้เสียชีวิต 44 ราย สถิติอุบัติเหตุสะสม 5 วัน (11 - 15 เมษายน 2565) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,478 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 1,452 คน ผู้เสียชีวิต 204 ราย เน้นดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทางควบคู่กับมาตรการป้องกันโรคโควิด – 19 อย่างเข้มข้น จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่องในเส้นทางสายต่าง ๆ โดยเฉพาะเส้นทางสายหลัก สายรอง ทางเลี่ยง ทางลัด ถนนทางตรง วิ่งสวนเลน และไม่มีเกาะกลาง พร้อมคุมเข้มผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ ไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย รวมถึงประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการขับรถเร็วและง่วงหลับใน อีกทั้งขอให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษในเส้นทางที่มีฝนตกและลมกระโชกแรง เพื่อให้การเดินทางเป็นไปด้วยความปลอดภัย
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี (ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์) เปิดเผยว่า ในวันนี้นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมประชุมฯ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์จากศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2565 จังหวัดเชียงใหม่ สำหรับสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 15 เมษายน 2565 ซึ่งเป็นวันที่ห้าของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 277 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 263 คน ผู้เสียชีวิต 44 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 39.35 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 28.52 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 77.70 รถปิกอัพ 11.87 ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 32.85 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 39.35 บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางตรง ร้อยละ 79.42 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 20.01 – 21.00 น. ร้อยละ 8.30 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ในช่วงอายุ 20 – 29 ปี ร้อยละ 22.48 โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (16 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (16 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (5 ราย) เจ้าหน้าที่ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,897 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 56,311 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 394,460 คันมีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 67,111 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 18,323 ราย ไม่มีใบขับขี่ 17,729 ราย
สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม 5วัน (วันที่ 11 – 15 เมษายน 2565) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,478 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 1,452 คน ผู้เสียชีวิต 204 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (60 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (58 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (8 ราย) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตรวม 12 จังหวัด ได้แก่ ตรัง นครพนม บึงกาฬ ปราจีนบุรี ปัตตานี ยะลา ระนอง ลำพูน สมุทรสงคราม สิงห์บุรี หนองบัวลำภู และอำนาจเจริญ
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวว่า วันนี้ประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพมหานครและจังหวัดเขตเศรษฐกิจ ทำให้มีปริมาณรถหนาแน่นเส้นทางหลักและเส้นทางสายรองที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัด ศปถ.จึงได้ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทางควบคู่กับมาตรการป้องกันโควิด – 19 อย่างเข้มข้น จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่องในเส้นทางสายต่าง ๆ โดยเฉพาะเส้นทางสายหลัก สายรอง ทางเลี่ยง ทางลัด ทางตรง วิ่งสวนเลน และไม่มีเกาะกลาง พร้อมคุมเข้มผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ ไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย รวมถึงประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการขับรถเร็วและง่วงหลับใน พร้อมดำเนินการแก้ไขปัญหาการจราจร โดยเปิดช่องทางพิเศษเพื่อเร่งระบายรถ และปิดจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ อาทิ ตั้งกรวยริมไหล่ทาง ปิดจุดกลับรถ นอกจากนี้ ในวันนี้ (16 เม.ย.) ถึงวันที่ 18 เมษายน 2565 ประเทศไทยจะเกิดพายุฤดูร้อนในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ทำให้สภาพถนนเปียกลื่น และทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน จึงขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ โดยไม่ขับรถเร็ว เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ กรณีฝนตกหนักพายุลมแรง ให้จอดพักรถในบริเวณที่ปลอดภัยห่างจากต้นไม้ใหญ่เสาไฟฟ้า และป้ายโฆษณา เพื่อให้เดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย