วันนี้ ( 18 เม.ย.65 ) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวโจมตีการบริหารงานด้านเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล และเสนอให้ชะลอการปล่อยราคาดีเซลเกิน 30 บาทออกไปก่อน รวมทั้งให้คืนเงินกองทุนส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและควบคุมเงินเฟ้อไม่ให้สูงเกินไป ว่า เรื่องที่นายพิชัยฯ พูดเป็นสคริปเก่าที่ใช้วนไปวนมา ไม่มีอะไรใหม่เลย และส่วนใหญ่เป็นการมโนที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นห่วงเรื่องราคาน้ำมันและเงินเฟ้ออย่างมาก จากที่ได้กำชับไปก่อนหน้านี้และเฝ้าติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีความผันผวนตั้งแต่เดือน ก.ย. 64 ทำให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศทุกชนิดขยับเพิ่มขึ้นตาม แต่รัฐบาลโดยคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ออกมาตรการดูแลราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนมาโดยตลอดตั้งแต่ตุลาคม 64 

“แม้รัฐบาลจะประกาศปรับราคาน้ำมันดีเซลเกินกว่า 30 บาท/ลิตร ตั้งแต่ 1 พ.ค. 65 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ราคาตลาดโลกที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนและสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่รัฐบาลก็เตรียมเข้าไปอุดหนุนราคาส่วนเพิ่ม 50% ถ้าราคาน้ำมันดีเซลภายในประเทศยังคงสูงกว่าราคาที่กำหนดไว้ และเช่นเดียวกับราคาก๊าซหุงต้มและค่าไฟฟ้าที่มีมาตรการไว้แล้วเช่นกัน ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง และ ธปท. ได้ประสานงานกันอย่างใกล้ชิดและประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นในระยะสั้นตามสถานการณ์ราคาน้ำมันและจะปรับลดลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับมาตรการทางการคลังที่จะช่วยสร้างรายได้และบรรเทาภาระค่าครองชีพในกลุ่มเปราะบาง และจะทำทุกวิถีทางเพื่อพยุงเศรษฐกิจของประเทศภายใต้สถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนสูงดังกล่าว” นายธนกร กล่าว