วันที่ 12 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าว onb news รายงานว่า หลังจากเกิดเหตุหัวขโมยใช้กาวสองหน้าติดกับไม้ขนาดเล็กล้วงขโมยเงินในตู้รับเงินทำบุญบริจาคบำรุงพระอาราม ค่าน้ำ-ค่าไฟ ประจำวัดอ่าวน้อย แล้วถูกชาวบ้านในหมู่บ้านช่วยกันจับกุมตัวส่งตำรวจ สภ.เมืองประจวบฯดำเนินคดีตามกฎหมายได้ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 ก.ย.62 ที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามบรรยากาศภายในวัดอีกครั้ง พบว่าบรรยากาศภายในวัดเป็นไปตามปกติมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาแสวงบุญและร่วมทำบุญถวายสังฆทานภายในโบสถ์ไม้สักของวัดอ่าวน้อย หรือวัดเขาถ้ำวิปัสสนา หมู่ที่ 2 ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุตามปรกติ แต่ที่เพิ่มเติมขึ้นมาก็คือบริเวณตู้รับเงินทำบุญบริจาคได้มีการดัดแปลงเพิ่มเติมให้ช่องหย่อนใส่เงินมีขนาดเล็กลง และซับซ้อนยิ่งขึ้น ทำให้มิจฉาชีพไม่สามารถใช้วัสดุอุปกรณ์ล้วงขโมยเงินได้เหมือนเช่นที่ผ่านมา

 

 

 

 

โดยผู้สื่อข่าวได้พูดคุยสนทนากับพระพงษ์ศักดิ์ ธิติคุณากร หรือหลวงตาพงษ์ศักดิ์ ซึ่งเป็นพระลูกวัดที่ร่วมดูแล และบริการญาติโยมที่เข้ามาทำบุญภายในโบสถ์แห่งนี้ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ขโมยเงินในตู้รับบริจาคของวัดเพิ่งเกิดเหตุครั้งนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่สร้างโบสถ์มานับ 10 ปี และกรณีหัวขโมยรายนี้ไม่ได้สนิทสนมกับใครในวัดเป็นพิเศษ หรือแม้แต่พระสงฆ์เอง ก็เหมือนญาติโยมที่เข้ามาทำบุญในวัดตามปกติจึงไม่ได้แปลกใจอะไร แต่ต่อมาตู้รับบริจาคเงินมีสิ่งผิดปกติ ประมาณ 1 เดือน ทางด้านเจ้าอาวาสเกิดความแปลกใจเมื่อพบเห็นกระดาษกาว 2 หน้าหล่นอยู่ในตู้รับบริจาคเงินหลายชิ้น จึงเริ่มสงสัยและช่วงแรกก็คิดว่ามีเด็กมาเล่นซนจึงได้ถามพระและคนในวัดปรากฏว่าไม่มีเด็กมาเล่น จึงไม่ได้แจ้งให้พระลูกวัดทราบแต่พอเงินในตู้หายบ่อยขึ้นผิดจากยอดเดิมที่เคยนับได้ จึงเริ่มสงสัยและบอกกับพระลูกวัดให้ทราบและให้ช่วยกันสอดส่องดูแล โดยปกติโบสถ์แห่งนี้จะมีพระและฆราวาสอยู่ตลอดเวลาประมาณ 3 คน แต่จะมีช่วงที่พระออกไปบิณฑบาตและไปฉันอาหารจะไม่มีคนอยู่ในโบสถ์ ซึ่งโบสถ์แห่งนี้สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง บานประตู-หน้าต่างจะมีความแข็งแรงมากทำให้ยากต่อมิจฉาชีพที่จะเข้ามาขโมยสิ่งของ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุทางด้านเจ้าอาวาสได้สั่งให้ทำเหล็กครอบช่องหย่อนรับเงินบริจาคให้มีความแข็งแรง และมีขนาดเล็กลงป้องกันมิจฉาชีพ หรือหัวขโมยมาลักขโมยเงินในตู้รับเงินทำบุญบริจาคอีก และหลังจากนี้คงจะต้องเพิ่มความระมัดระวัง และติดกล้องวงจรปิดจับภาพภายในโบสถ์ตลอดเวลา เพื่อป้องกันมิจฉาชีพมาก่อเหตุซ้ำ ส่วนหัวขโมยรายนี้ที่ถูกจับส่งให้กับทางตำรวจก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป//////