จากกรณี เมื่อวันที่ 19 เม.ย. พ.ต.อ. จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.สส.ภ.จว.ระยองพร้อมกำลังชุดสืบสวน ได้จับกุม นายติดแสน สัญชาติกัมพูชา พร้อมรถจยย.บิ๊กไบก์ ยี่ห้อฮอนด้าCBR 650R สีแดง ซึ่งเป็นรถของกลาง ที่นายติดแสนขับขี่เข้ามาในพื้นที่ สภ เมือง ระยอง แล้วถูกจับ ข้อหาดัดแปลงท่อดัง แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าปรับเลยถูกยึดรถไว้ที่บริเวณหน้า สภ เมือง ระยอง และต้องนั่งรถประจำทางกลับไปที่บ้านพักในโรงงานแห่งหนึ่ง อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง มาเล่าให้เพื่อสนิทชื่อ"นายกล้า"ฟัง หลังจากทราบเรื่องนายกล้าอาสาไปเอารถกลับคืนมาให้ โดยนำกุญแจสำรองติดตัวไป โดยไม่ทราบว่าผิดกฎหมาย จนกระทั่งนายกล้านำรถมาคืนให้ จึงจอดรถไว้ในบ้านพัก และ ไปทำงานตามปกติ สุดท้ายมาถูกจับกุมพร้อมรถจยย. ส่วนนายกล้าได้หลบหนีไป ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้ว

เกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 20 เม.ย.พ.ต.ท.อธิวัฒน์ อภิวุฒิชัยกิตติ์ สารวัตรจราจร สภ. เมือง ระยอง พร้อมด้วย ร.ต.อ.ชัยณรงค์ เขียวหวาน รอง สวป.ชุดปราบปรามอบายมุข สภ.เมือง ระยอง และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกติดตามจับกุม "นายกล้า" ที่ร่วมกับเพื่อนชาวเขมร มาขโมยรถจยย.ของกลางจาก สภ.เมือง ระยอง จากการสืบสวนจนทราบชื่อจริงของนาย กล้า คือนายสิงหล มีอาชีพขายรถจยย.บิ๊กไบค์มือ 2 พักอาศัยอยู่ในบ้านพัก ใน อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง จึงติดตามไปจับกุมตัว

ต่อมาสามารถจับกุมตัว"นายกล้า"ได้ในบ้านพักภายใน อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง จึงควบคุมตัวมาทำการสอบสวนที่ สภ.เมือง ระยอง

โดยนายกล้า ให้การรับสารภาพ ว่า เป็นคนมาขี่รถจยย.ของกลางไปจริง ที่ทำไปเพราะรักเพื่อน เพราะคบกันมานานหลายปีและอยู่แก็งค์บิ๊กไบค์ร่วมขับขี่ตระเวนท่องเที่ยวไปไหนด้วยกันเสมอ และ เข้าใจผิดที่ตำรวจออกใบบันทึกการยึดรถแต่ตำรวจจราจรผู้จับไม่ยอมออกใบสั่งให้ วันที่ 18 เม.ย.ช่วงกลางคืนจึงนำกุญแจสำรองมาไขรถจยย.บิ๊กไบก์ ของนายติดแสน ที่ถูกตรวจยึดและจอดอยู่ตรงหน้า สภ.เมือง ระยอง โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าอยู่ จึงขี่รถออกมาจากโรงพัก และ ขี่กลับมาคืนให้ นายติดแสน ที่บ้านพัก สาเหตุที่ต้องช่วยเพราะเกิดอารมณ์โมโห และ เข้าใจผิด ด้วยความรักเพื่อนที่คบกันมานานแล้ว และ อยู่ในแก๊งบิ๊กไบค์ด้วยกัน จึงอาสาไปเอารถให้ โดยไม่คิดว่าผิดกฎหมายและมีโทษที่รุนแรง ต้องขอโทษตำรวจด้วย