จากกรณีกลุ่มมิจฉาชีพฉวยโอกาสช่วงปุ๋ยมีราคาแพง หลอกลวงนำเอาปุ๋ยปลอมมาจำหน่ายให้กับกลุ่มเกษตรกรชาวสวนในพื้นที่อำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร ทำให้มีผู้หลงเชื่อซื้อปุ๋ยไม่มีคุณภาพตกเป็นเหยื่อจำนวนมากมูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท หลังเกิดเหตุชาวบ้านจึงรวมตัวกันเรียกร้องความเป็นธรรมและเอาผิดแก็งดังกล่าวโดยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(ปคบ.)

ต่อมาพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง., พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ พ.ต.อ.สมเกียรติ ตันติกนกพร รอง ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.๒ บก.ปคบ. พ.ต.ท.กานต์กนิษฐ์ จงประเสริฐ , พ.ต.ท.ธีรภพ  พันธุชาติ รอง ผกก.๒ บก.ปคบ. ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ปคบ.ประกอบด้วย พ.ต.ต.พงษ์ธนา กรีฑา     สว.กก.2 เจ้าพนักงานตำรวจ บก.ปคบ.ไปทำการสืบสวนหลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ในพื้นที่ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ว่ามีผู้ฉวยโอกาสในขณะที่ปุ๋ยราคาแพงลักลอบขายปุ๋ยเคมีปลอม มาเร่ขายให้กับเกษตรกรในพื้นที่     จึงได้ลงพื้นที่เพื่อทำการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด

โดยพบว่ามีผู้เสียหายหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก ลักษณะการกระทำความผิดใช้การขายในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดทำให้มีเกษตรกรบอกต่อให้ญาติพี่น้องติดต่อสั่งซื้อกันเสียหายรายละหลายหมื่นบาท จากการสืบสวนพบว่าปุ๋ยดังกล่าวมีการโฆษณาบอกแก่ลูกค้าหรือผู้ซื้อว่าเป็นปุ๋ยท้องเรือ โดยปุ๋ยดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับปุ๋ยเคมีที่วางจำหน่ายในท้องตลาด แต่ไม่มีกลิ่นฉุน จับดูแล้วมีลักษณะคล้ายดินอัดก้อน โดยมีผู้เสียหายที่หลงเชื่อและได้ซื้อปุ๋ยปลอมดังกล่าวได้นำผลิตภัณฑ์ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นปุ๋ยปลอม มามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและได้ประสานงานกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรชุมพรเพื่อตรวจพิสูจน์ จำนวนหลายสิบคน และยังมีผู้เสียหายที่อยู่ระหว่างติดต่ออีกจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท โดยจากการสืบสวนพบว่าปุ๋ยปลอมดังกล่าวมีลักษณะคล้ายปุ๋ยยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งเลขทะเบียนปุ๋ยหมดอายุไปตั้งแต่ปี 2557

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 22 เม.ย.65 พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.๒ บก.ปคบ. พร้อมพนักงานสอบสวนรวม 3 นาย และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(ปคบ.) เดินทางลงพื้นที่หมู่ 1 (บ้านปะระ) ตำบลสลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ตั้งโต๊ะรับแจ้งความร้องทุกข์และเพื่อบริการความสะดวกแก่ประชาชนชาวสวนที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าวไม่ต้องเดินทางไปยังกรุงเทพมหานคร

พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.๒ บก.ปคบ. กล่าวว่า ตำรวจ ปคบ.เดินทางลงพื้นที่โดยเป็นการบริการประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงขายปุ๋ยปลอมหรือซิลเลอร์ดินที่ปั้นเป็นก้อน  โดยไม่ต้องเดินทางแจ้งความไกลถึงกรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้เสียหายบางรายไม่สะดวกในการเดินทางไกลและเสียเวลาเนื่องจากมีมูลค่าความเสียหายตั้งแต่ 5,000-10,000-20,000 โดยพบข้อมูลจากการสืบสวนมีผู้เสียหายเบื้องต้นประมาณ 50 ราย 3 ตำบลในพื้นที่อำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร  วันนี้จึงนัดผู้เสียหาเดินทางมาสอบปากคำเพื่อยืนยันดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด

สำหรับแก็งมิจฉาชีพหลอกลวงขายปุ๋ยปลอมสืบทราบว่ามีจำนวน 3 คน ซึ่งในนั้นเป็นคนในพื้นที่ทำหน้าที่ออกสำรวจสอบถามหรือฟรีออเดอร์ตามหมู่บ้านหรือประกาศขายตามเฟซบุ๊กว่าผู้ใดสนใจปุ๋ยท้องเรือโดยใช้เล่กลอุบายพูดโน้มน้าวให้เชื่อและเสนอราคากระสอบละ 540 บาทซึ่งถูกกว่าท้องตลาดหลายเท่าตัว  

หลังจากมีชาวสวนหลงกลตกเป็นเหยื่อสั่งซื้อก็จะไปเอาสินค้ามาจากทางภาคกลางโดยรับมากระสอบละ 190 บาท มาขายให้ชาวสวนกระสอบละ 540 บาท หลังจากชาวสวนนำมาใช้แล้วและตั้งข้อสังเกตุเชื่อว่าน่าจะเป็นปุ๋ยปลอมใช้ไม่ได้ผลจึงแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ.

ด้านนายสนั่น  พุ่มพัว  ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านปะระ ตำบลสลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร กล่าวว่า มีลูกบ้านได้รับความเสียหายจากมิจฉาชีพหลอกขายปุ๋ยปลอมจำนวน 20 หลังคาเรือน ประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมาคนร้ายกลุ่มนี้จะเข้าหาเกษตรกรตีสนิทชวนเชื่อว่าเป็นปุ๋ยท้องเรือ ซึ่งเดิมชาวสวนเคยใช้ปุ๋ยท้องเรือที่เป็นปุ๋ยแท้และใช้ได้ดีมีคุณภาพจึงเชื่อหลงเชื่อได้ง่ายและสั่งซื้อ แต่ครั้งนี้มาเจอกลุ่มหลอกขายปุ๋ยปลอม

ผู้ใหญ่บ้านจึงฝากแจ้งเตือนเกษตรกรชาวสวนหมู่บ้านตนเองและหมู่บ้านใกล้เคียง อย่าได้หลงเชื่อก่อนซื้อควรทดสอบก่อนเบื้องต้นลองละลายน้ำ  รสชาติต้องเค็ม ถูกมือจะรู้สึกแสบร้อนในการเลือกซื้อปุ๋ยให้ สังเกตกระสอบต้องมีตราสัญญาลักษณ์ต่างๆ และความยับยั้งชั่งคิดว่า “ปุ๋ยถูกและดีมันไม่มี” หรือถ้าคนขายมีพิรุธให้แจ้งผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชนก่อนได้เลย”  ผู้ใหญ่บ้านกล่าว