"ประวิตร" หารือทูตฮังการีฯ กระชับสัมพันธ์ทุกมิติ-ส่งเสริมร่วมมือด้านสาธารณสุข
22 เม.ย. 2565, 17:46
วันนี้ ( 22 เม.ย.65 ) เวลา 10.00 น. ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายชานโดร์ ชีโปช (Mr. Sándor Sipos) เอกอัครราชทูตฮังการีประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ สาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
รองนายกรัฐมนตรียินดีกับเอกอัครราชทูตฮังการีฯ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ พร้อมยินดีที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศดำเนินไปอย่างใกล้ชิด โดยในปี 2566 นี้จะเป็นวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ไทย-ฮังการี ซึ่งทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการวางแผนจัดกิจกรรมเฉลิมฉลอง นอกจากนี้รองนายกรัฐมนตรียังได้ติดตามผลการเลือกตั้งทั่วไปของฮังการี เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อมั่นว่าความต่อเนื่องทางนโยบายจะมีส่วนช่วยพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันให้ครอบคลุมในทุกมิติ อย่างเต็มศักยภาพมากขึ้น และกล่าวขอบคุณฮังการีที่สนับสนุนไทยในเวทีสหภาพยุโรปเสมอมา
ด้านเอกอัครราชทูตฮังการีฯ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เข้าพบรองนายกรัฐมนตรี การได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยถือเป็นความยินดีและชื่นชมประเทศไทยที่เป็นประเทศที่สวยงาม ผู้คนเป็นมิตรและน่าอยู่เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งการเข้าหารือในวันนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างฮังการีกับไทยในมิติต่าง ๆ ที่ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพร่วมกัน ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี อาทิ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูง ความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภายหลังสถานการณ์โควิด-19 และความร่วมมือด้านสาธารณสุข เป็นต้น ซึ่งเอกอัครราชทูตฮังการีฯ ยืนยันว่าพร้อมจะเป็นผู้สานต่อเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้แนบแน่นและเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นในอนาคต
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความร่วมมือทวิภาคี โดยเฉพาะด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ไทย-ฮังการี โดยรองนายกรัฐมนตรี ยินดีที่ทั้งสองฝ่ายได้ดำเนินการความร่วมมืออย่างต่อเนื่องภายหลังการประชุมคณะกรรมการดำเนินงานร่วมว่าด้วยความร่วมมือ ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (Joint Steering Committee - JSC) ไทย - ฮังการี ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งได้จัดทำแผนงานความร่วมมือทวิภาคี ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ไทย - ฮังการี ระยะ 3 ปี โดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถบูรณาการความร่วมมือในการขับเคลื่อนด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำได้ในส่วนที่ฮังการีเชี่ยวชาญ รวมทั้งกล่าวขอบคุณฮังการีสำหรับการมอบเครื่องกรองน้ำให้แก่ไทยจำนวน 2 เครื่อง ถือเป็นประโยชน์อย่างมากในการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งทางสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติจะได้ประสานผู้เกี่ยวข้องจัดสรรไปยังพื้นที่เหมาะสมต่อไป
ขณะเดียวกันเอกอัครราชทูตฮังการีฯ พร้อมที่จะให้ความร่วมมือด้วยการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ต่าง ๆ ซึ่งทางรัฐบาลฮังการีมีนโนบายที่จะให้ความร่วมมือและจัดการฝึกอบรมให้แก่ประเทศไทย ทั้งด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย โดยมีแผนงานที่จะจัดการฝึกอบรมและศึกษาดูงานในเดือนมิถุนายน 2565 นี้ รวมทั้งฮังการียินดีที่จะสานต่อการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนที่จะนิยมใช้มากขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านสาธารณสุข ผ่านการวิจัยและพัฒนาวัคซีน การแลกเปลี่ยนบุคลากร และการแพทย์และสาธารณสุข โดยรองนายกรัฐมนตรีขอบคุณรัฐบาลฮังการีที่ได้บริจาคบริจาควัคซีนป้องกันโควิด-19 ยี่ห้อ Moderna ให้ไทย จำนวน 100,000 โดส นับเป็นความสำเร็จของทั้งสองประเทศในการร่วมมือเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19