สว.พะเยา จัดอบรมและศึกษาดูงาน เรื่องการปลูกกัญชงสร้างรายได้
23 เม.ย. 2565, 14:22
วันที่ 23 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า โครงการ สว.พบประชาชนภาคเหนือ จัดอบรมและศึกษาดูงาน เรื่อง การปลูกกัญชง เพื่อสร้างรายได้และทดแทนพืชที่เป็นสาเหตุให้เกิด PM 2.5 รุ่นที่ 2 ที่ จ.พะเยา
วันที่ 23 เม.ย.2565 พลเอก สกนธ์ สัจจานิตย์ รองประธานคณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน ในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ (ตอนบน) เป็นประธานเปิดการ อบรมและศึกษาดูงาน เรื่อง "การปลูกกัญชง เพื่อสร้างร้ายได้และทดแทนพืชที่เป็นสาเหตุให้เกิด PM 2.5" รุ่นที่ 2 ณ โรงแรม เอ็มทู โฮเทล วอเตอร์ไซด์ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา
ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ของคณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ (ตอนบน) ตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมา พบปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 และไฟป่า ซึ่งเป็นปัญหาที่มีความรุนแรงและต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อสุขภาวะและเศรษฐกิจของประชาชนอย่างกว้างขวางในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนบน คณะกรรมการฯ จึงตั้งคณะทำงานติดตามการปฏิรูปประเทศเรื่องฝุ่นละออง (PM 2.5) และไฟป่าขึ้น ซึ่งมี พันตำรวจตรี ยงยุทธ สาระสมบัติ สมาชิกวุฒิสภา เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ทั้งนี้คณะทำงานฯ เสนอแนวทางที่จะช่วยแก้ไขปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 และไฟป่า คือการส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนการปลูกพืชเชิงเดี่ยว จึงได้ได้สนับสนุนการอบรมการปลูกพืชกัญชง ให้กับวิสาหกิจชุมชน เพื่อลด PM 2.5 อีกทั้งสามารถสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับชุมชน จึงได้มีการจัดอบรมในวันนี้ขึ้น เพื่อให้เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ผู้นำเกษตรกรและ เกษตรกรผู้สนใจ ทราบหลักการการปลูกกัญชงอย่างถูกต้องตามกฎหมายและได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ตรงความต้องการของผู้รับซื้อ และตลาดของกัญชง อีกทั้งยังทำให้เกิดตลาดรองรับผลผลิต ทุกส่วนของพืชกัญชง ทั้งช่อดอกและส่วนประกอบของลำต้นต่าง ๆ เพื่อสร้างรายได้ทดแทนการปลูกพืชเศรษฐกิจ เดิมที่มีปัญหาด้านราคาและก่อมลภาวะ PM 2.5 ทั้งนี้ การจัดอบรมฯ กำหนดจัดขึ้นจำนวน 2 รุ่น รุ่นละ 40 คนโดยแต่ละรุ่นประกอบด้วย วิสาหกิจ ชุมชนหรือเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนบน จำนวนรุ่นละ 35 คน และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่ จำนวน 5 คน และได้จัดอบรม รุ่นที่ 1 ไปแล้วเมื่อวันที่ 2 - 3 เมษายน 2565 ที่ โรงแรม เฮอร์ริเทจ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย และได้จัดรุ่นที่ 2 ในวันนี้ โดยมีวิสาหกิจชุมชนหรือเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนบน จำนวน 40 คน ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่จำนวน 20 คน และยังมีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและเกษตรผู้สนใจขอเข้าร่วมสังเกตการณ์ในการอบรมครั้งนี้อีก 42 คน ซึ่งการจัดการอบรมฯ ทั้งสองรุ่น ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)โดยกระบวนการฝึกอบรมเป็นการบรรยายในหัวข้อต่าง ๆ เกี่ยวกับการปลูกกัญชงเพื่อสร้าง รายได้ และทดแทนพืชที่เป็นสาเหตุให้เกิด PM 2.5 อาทิ การปลูกกัญชงให้ถูกต้องตามกฎหมาย การเก็บเกี่ยว การเก็บรักษา แนวทางการพัฒนาการปลูกให้เหมาะสมกับท้องถิ่น และการตลาดรวมถึงมีการศึกษาดูงานในแปลงปลูก โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายหน่วยงาน และหอการค้าจังหวัดพะเยา ซึ่งนอกจากจะได้รับความรู้แล้ว ยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมการอบรมซักถาม เพื่อเป็นการสำรวจความ เป็นไปได้ที่จะดำเนินกิจการปลูกกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของชุมชนด้วย
พันตำรวจตรี ยงยุทธ สาระสมบัติ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฯ กล่าวว่า การอบรมวันนี้เพื่อเป็นช่องทางในการลด PM 2.5 สาเหตุเกิดจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยว และเพื่อลดปัญหาการเผ่าพืชเชิงเดี่ยว พืชที่นำมาปลูกแทนต้องไม่มีการเผา จึงเป็นที่มาขอการอบรมส่งเสริมปลูกกัญชงขึ้น ซึ่งนอกจากจะลด PM 2.5 แล้วยังสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรอีกด้วย คนที่สนในควรศึกษาเรื่องขอระเบียบข้อกฎหมาย ของกระทรงสาธารณสุข เพราะมีกฎหมายควบคุมอยู่ โดยจะมีทีมงานแต่ละจังหวัดให้ความรู้ในกระบวนการขออนุญาตทั้งหมดรวมถึงวิธีการปลูกด้วย
ขณะที่นายณรงค์ชัย สุทธิกุลบุตร ประธานหอการค้าจังหวัดพะเยา กล่าวว่า ทางหอการค้าจังหวัดพะเยา ยินดีให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่โดยมีการเชื่อมโยงเครือข่ายในการปลูกกัญชง ทราบว่ามีหลายแปลงในจังหวัดพะเยาได้รับการอนุญาต และปลูกแล้วและสามารถเก็บเกี่ยวผลิตได้แล้ว และถ้าหากใครสนใจ ก็สามารถติดต่อหอการค้าจังหวัดพะเยาได้เลย ทางหอการค้ายินดีให้การสนับสนุนเกษตรกรที่สนใจการปลูกกัญชง เพื่อสร้างรายได้ และลดปัญหา PM 2.5
ด้านตัวแทนเกษตรกรในจังหวัดพะเยา บอกว่า เป็นพืชเศรษฐกิจที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นพืชที่เสริมรายได้ และมีราคาค่อนข้างดี ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาการปลูก วิธีการปลูกและขั้นตอนการขออนุญาตตามกฎหมาย หลายคนรวมถึงตนเองก็ได้เตรียมพื้นที่เพาะปลูกไว้แล้ว