"ปภ." ประสานจังหวัดเสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมขัง
13 ก.ย. 2562, 11:11
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณน้ำฝนสะสม สถานการณ์น้ำท่า พบว่า ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางพื้นที่ ขณะที่บางพื้นที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย อาจทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมขัง
โดยมีพื้นที่ติดตามผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง
โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี
พื้นที่เฝ้าระวังผลกระทบจากฝนตกหนัก แยกเป็น
ภาคเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ และน่าน
ภาคตะวันเฉียงเหนือ 10 จังหวัด ได้แก่ หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร
ภาคกลาง 1 จังหวัด ได้แก่ นครนายก
ภาคตะวันออก 7 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ 2 จังหวัด ได้แก่ ระนอง และพังงา
ปภ. ได้ประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและจังหวัด ในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวเตรียมพร้อมป้องกันและรับมือสถานการณ์ภัย โดยติดตามข้อมูลสภาพอากาศ ระดับน้ำและการระบายน้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) เครื่องจักรกลสาธารณภัยและเครื่องมืออุปกรณ์เข้าประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที รวมถึงประชาสัมพันธ์ข้อมูลแนวโน้มสถานการณ์ภัยแก่ประชาชนผ่านทุกช่องทางการสื่อสาร รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามสถานการณ์น้ำและปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สามารถเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยได้ทัน โดยเฉพาะการขนย้ายทรัพย์สินและเครื่องใช้ขึ้นสูง การเคลื่อนย้ายยานพาหนะไปยังพื้นที่ปลอดภัย รวมถึงระมัดระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่ว อีกทั้งหลีกเลี่ยงการขับรถผ่านเส้นทางที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยวและน้ำท่วมสูง สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้โดยด่วนทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง