ลาแล้วแววตา "เจ้าสาวขาเลาะ" พ่อเผยลูกชายไม่เอาแล้ว ขอจบด้วยดี ชี้เงิน 3 หมื่นไม่เอาคืน (คลิป)
13 ก.ย. 2562, 11:33
วันนี้ (13 ก.ย.62) ผู้สื่อข่าว ONB news ได้เดินทางไปพบกับนายบอน คำบุญยอ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 1 บ้านอ้อมกอ ต.อ้อมกอ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นพ่อของนายสันติ คำบุญยอ อายุ 30 ปีว่าที่เจ้าบ่าวรักช้ำ กับคู่หมั้นสาว คือน.ส.แววตา นามวิชัย อายุ 30 ปี หลังจากเกิดเรื่องเกิดราว น.ส.แววตาหลอกครอบครัวว่าจะเดินทางไปหานายสันติที่จ.กาฬสินธุ์ แต่ดันโกหกไปว่าถูกคนขับรถทัวร์บังคับพาไปที่เปลี่ยวแถมยึดโทรศัพท์ไว้ จนเกิดความวุ่นวายโกลาหลทั้งนางอุบล นามวิชัย แม่ของน.ส.แววตาและนายสันติ พากันเดินทางไปแจ้งความที่สภ.เมืองอุดรธานีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ในที่สุดก็มารู้ความจริงว่าน.ส.แววตาแอบขึ้นรถทัวร์เดินทางเข้ากรุงเทพฯ บอกทุกคนว่าไปทำงานอยู่กับพี่สาว ทำให้พ่อแม่และคู่หมั้นโล่งอกไปเปราะหนึ่ง
แต่เรื่องราวยังไม่จบเท่านั้น เมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งที่นวนคร จ.ปทุมธานี ออกมาแฉว่าน.ส.แววตาแอบไปคบซ้อนกับสามีอยู่ ทั้ง ๆ ที่น.ส.แววตาหมั้นกับนายสันติและกำลังจะแต่งงาน โดยทางผู้หญิงคนนี้เตรียมให้ทนายความฟ้องแววตาที่ทำให้ครอบครัวแตกแยก จนล่าสุดมีข่าวว่าทางญาติผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายจะยกเลิกงานแต่งระหว่าง 2 คนนี้แล้ว
ซึ่งงานแต่งทั้ง 2 คนล่มจริง ในเรื่องนี้ได้รับการยืนยันจากปากของนายบอน คำบุญยอ อายุ 56 ปี พ่อของนายสันติว่า เปิดเผยว่า งานแต่งของทั้ง 2 คนไม่มีเกิดขึ้นอีกแล้วจริงๆ แต่อยากจะย้อนเล่าเรื่องราวให้ฟังก่อนว่า ลูกชายคือนายสันติและน.ส.แววตาได้หมั้นกันวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมาจะแต่งกัน 70,000 บาทแต่หมั้นกันเอาไว้ 30,000 บาท ลูกชายบอกว่าจะทำงานเก็บเงินได้ครบเมื่อไรจะกลับมาแต่งงาน จากนั้นน.ส.แววตาก็เดินทางไปกับสันติที่จ.กาฬสินธุ์ช่วงเย็นวันนั้นเลย ไปก็ไม่ได้ทำอะไรหรอก ก็กะว่าจะไปอยู่เป็นเพื่อนกับคู่หมั้น แต่ไปไม่ถึงอาทิตย์แววตาก็กลับมาที่บ้านไผ่ล้อม บอกว่าเจ็บท้อง และนางอุบลก็พาแววตาไปหาหมออาการดีขึ้น จากนั้นแววตาก็บอกว่าจะกลับไปหาสันติที่จ.กาฬสินธุ์อีกครั้ง โดยจะนั่งรถโดยสารไป จนมาเกิดเรื่องเกิดราวอย่างที่เป็นข่าวว่าถูกรถทัวร์พาไปที่เปลี่ยวขู่ทำร้ายและยึดโทรศัพท์เอาไว้ แต่เอาเข้าจริงๆ ไม่เป็นอย่างนั้น จนทุกคนรู้ว่าแววตานั่งรถทัวร์เข้ากรุงเทพฯ โทรมาบอกแม่ว่าไปทำงาน เมื่อทุกคน รู้ว่าไม่ได้ถูกทำมิดีมิร้ายทุกคนก็โล่งอกแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีมีข่าวแววตาไปแอบคบซ้อนกับผู้ชายคนอื่น พ่อของนายสันติ บอกว่า เรื่องนี้ได้คุยกับสันติอยู่ ว่าพอจะรู้ไหมว่าแววตาคบซ้อนกับผู้ชายคนอื่น ลูกชายก็บอกว่า ก็ได้เค้าอยู่ แต่ผู้ชายเป็นใครนั้นไม่รู้ แต่พ่อก็พูดอะไรไม่ได้มาก ในเมื่อทั้ง 2 คนรักกัน ก็ปล่อยไป ส่วนกำหนดงานแต่งงานจากนี้ไป นายบอนบอกว่า คงไม่คือหรอก ไม่คือหมายถึงไม่มีแล้วงานแต่งงาน เป็นไปไม่ได้แล้ว สาเหตุที่ไม่มีงานแต่งเพราะแววตาทำให้พวกเราเห็นไวๆ เห็นกันจะจะ เดินหน้าไม่ถอยหลัง แม้ความจริงเรื่องของแววตาที่ไปคบซ้อนกับผู้ชายคนอื่นยังไม่เปิดเผยให้ชัดเจน แต่ก็ทำให้พวกเราไม่สบายใจ อีกอย่างแววตาก็โกหกตอนบอกว่าจะไปหาแฟนที่จ.กาฬสินธุ์ แต่ดันไปกรุงเทพฯ ส่วนเรื่องเงินสินสอด 30,000 บาทไม่เอาคืนแล้ว ให้จบกันไป และตนเองถามสันติแล้วลูกชายก็บอกว่าไม่เอาแววตาแล้วเช่นกัน พ่อก็บอกว่า ให้พอให้จบแค่นี้ ปล่อยเขาไปซะ แต่อนาคตก็ไม่แน่ เขาจะคบกันอยู่มั้ยก็เป็นเรื่องของลูกชาย ส่วนใจของพ่อไม่อยากให้เอาคืน เพราะแววตาอาจทำให้ไม่สบายใจและจะไม่ซื่อสัตย์ต่อลูกชายในอนาคต
นายบอน พ่อสันติ บอกอีกว่า นายสันติเขาเป็นลูกชายคนโตในจำนวนลูก 4 คน เขาเป็นคนมีความตั้งใจอยากจะสร้างครอบครัวอย่างมาก เคยแต่งงานมาแล้ว 3 ครั้งก็โดนเมียทิ้งหมด จนมาครั้งนี้ก็ครั้งที่ 4 ก็มีเรื่องมีราวอีกจนได้ ลูกชายคนนี้มีแต่ผู้หญิงทิ้ง พ่อคิดว่าหากเขากลับมาบ้าน คงจะพาเขาไปทำบุญแก้เคล็ดแก้เคราะห์ให้ตามความเชื่อของผู้เฒ่า สงสารลูกอยู่เพราะช้ำใจมาหลายครั้งเรื่องผู้หญิง ใจพ่อก็อยากให้เขาได้ผู้หญิงที่จริงใจซะทีเพราะเขาเป็นคนตั้งใจทำงานและทำเพื่อครอบครัวโดยเฉพาะทำเพื่อเมียดีมากแต่ก็มีเรื่องช้ำใจเรื่องความรักตลอด
ขณะที่ นางดำ คำบุญยอ อายุ 81 ปี ย่าทวดของนายสันติ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เชื่อว่าน.ส.แววตาเขาทำอย่างนั้นจริงๆ ตามที่เป็นข่าวตอนนี้นั่นแหละ แววตาตั้งใจมาหลอกเอาเงินหมั้น ยายไม่เอาแล้ว หากยังไปเอาเขาอยู่ยายจะตัดแม้กระทั่งหลานชายคือนายสันติ อยากให้จบกันแค่นี้ งานแต่งก็ไม่มีแล้ว สงสารหลานชายคนนี้มาก หลานมาหาไม่มีเงินก็ควักให้ครั้งละ 1000 บาท 500 บาทบ้าง แต่หากไม่ฟังความก็จะตัดหลานชายเหมือนกัน
ชมคลิป