นายกฯ ติดตามความคืบหน้าหลังหารือภาคเอกชนสหรัฐฯ ย้ำไทยให้ความสำคัญการลงทุนในประเทศ
29 เม.ย. 2565, 10:56
วันนี้(29 เม.ย. 65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามความก้าวหน้าภายหลังการหารือกับ คณะนักธุรกิจจากสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน (U.S. - ASEAN Business Council: USABC) 49 บริษัท เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งถือเป็นคณะใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเข้าเยี่ยมคารวะ พร้อมยังได้ย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งการลงทุนของภาคเอกชนต่างประเทศถือเป็นส่วนสำคัญ และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัว ท่ามกลางสถานการณ์ที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทาย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะนักธุรกิจ USABC บริษัทสำคัญจากทุกสาขาธุรกิจที่เข้าร่วม ต่างยืนยันพร้อมสนับสนุน เชื่อมั่นการดำเนินการของรัฐบาล ชื่นชมการทำงานของนายกรัฐมนตรี และยินดีสานต่อความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย และทิศทางนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่เน้นให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไปสู่ยุค Next Normal ซึ่งตัวแทนบริษัทสมาชิกต่างประทับใจ และพึงพอใจต่อผลการหารือ โดยเฉพาะภายหลังการเข้าร่วมรับฟังพัฒนาการ นโยบายและมาตรการสำคัญ วิสัยทัศน์จากนายกรัฐมนตรี เพื่อสามารถสานต่อและยกระดับความร่วมมือกับภาครัฐในประเทศไทยได้มากขึ้น
นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงนโยบายของรัฐบาล ที่มีความพร้อมของปัจจัยพื้นฐานที่เอื้อต่อการลงทุนที่ชัดเจน โดยคณะนักธุรกิจที่เข้าร่วมในครั้งนี้ถือเป็นคณะใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ถึง 49 บริษัทที่ได้เข้าร่วมครั้งนี้ มีบริษัทที่เข้าร่วมเป็นครั้งแรกหลายบริษัท สะท้อนว่า ประเทศไทยอยู่ในเรดาร์ของนักลงทุน ภาคเอกชนสหรัฐฯ เพราะเห็นถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทย และให้ความสนใจที่จะลงทุนในประเทศไทย นอกจากนี้ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของภาคเอกชนสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจไทย และความสนใจเพิ่มพูนการค้าและการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
"นายกฯ ได้ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันทำงาน มุ่งสู่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน เข้มแข็ง และครอบคลุม โดยไทยพร้อมเป็นเจ้าบ้านที่ดีสำหรับการดำเนินธุรกิจ ตามที่ได้กำหนดปัจจัยส่งเสริมการลงทุนในไทย ตลอดจน พร้อมสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการลงทุน และเพื่อเป็นศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาค พร้อมขอให้เชื่อมั่นว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญด้านเศรษฐกิจ การลงทุนระหว่างไทยกับต่างประเทศ พร้อมเสริมสมรรถนะด้านการแข่งขัน และยืนยันพัฒนาความเชื่อมโยง เสริมศักยภาพในภูมิภาค เพื่อการพัฒนาแห่งอนาคตที่เปิดกว้าง เชื่อมโยง สมดุล และยั่งยืน" นายธนกรกล่าว