"หมอธีระ" เตือนระวัง! "โอไมครอน" สายพันธุ์ BA.4 - BA.5 อาจก่อให้เกิดการระบาดใหม่ หากป้องกันไม่ดี พบแพร่เชื้อไวกว่า ดื้อต่อภูมิคุ้มกัน
30 เม.ย. 2565, 11:33
วันที่ 30 เม.ย. 65 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat เกี่ยวกับสถานการณ์การระบาด "โอไมครอน" ในประเทศไทย โดยระบุว่า
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 548,940 คน ตายเพิ่ม 2,170 คน รวมแล้วติดไปรวม 512,712,863 คน เสียชีวิตรวม 6,258,641 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เยอรมัน อิตาลี ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 14 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 76.11 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 73.59 การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็นร้อยละ 26.1 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 21.61
สถานการณ์ระบาดของไทย เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก และอันดับ 3 ของเอเชีย ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก
ทั้งนี้จำนวนเสียชีวิตของไทยเมื่อวานนั้นคิดเป็น 27.5% ของการเสียชีวิตทั้งหมดที่รายงานของทวีปเอเชีย หากดูจำนวนการติดเชื้อใหม่ต่อวัน รวม ATK ไทยเราจะติดอันดับ Top 10 ของโลกมาติดต่อกันยาวนานถึง 43 วันแล้ว ส่วนจำนวนการเสียชีวิตต่อวันนั้น ติดอันดับ Top 10 ต่อเนื่องมาแล้ว 14 วัน
อัพเดตสายพันธุ์ Omicron BA.4 และ BA.5 หากจำกันได้ ไม่กี่วันก่อนทางองค์การอนามัยโลกระบุในรายงาน WHO Weekly Epidemiological Update ว่าต้องจับตาดูสายพันธุ์ย่อยของ Omicron คือ BA.4, BA.5, และ BA.2.12
ข้อมูลล่าสุดเมื่อคืนนี้จาก Sigallab ประเทศแอฟริกาใต้ ยืนยันว่าภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อสายพันธุ์เดิมของ Omicron คือ BA.1 นั้นไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อของสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ได้ ด้วยความรู้จนถึงตอนนี้ BA.4 และ BA.5 น่าจะมีโอกาสที่จะนำไปสู่การแพร่ระบาดใหม่ (new wave) ได้ หากไม่ป้องกันให้ดี เพราะมีสมรรถนะในการแพร่ได้ไวกว่า BA.2 และดื้อต่อภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการติดเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิมของ Omicron BA.1 เชื่อว่าสายพันธุ์ทั้งสองน่าจะมาจากการมีแหล่งที่เพาะบ่มการติดเชื้อเป็นเวลานาน เช่น คนที่ติดเชื้อเรื้อรัง (chronic infection) หรือมาจากสัตว์ที่เป็นรังโรค (reservoir)
ไทยเรานั้น เปิดประเทศเดือนพฤษภาคม จะมีคนเดินทางมามากขึ้น การป้องกันตัวระหว่างการดำเนินชีวิตเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ในสังคมมีมาก ทั้งเรื่องการเปิดเรียน และจำนวนการติดเชื้อใหม่รายวันที่สูงติดอันดับ Top ten ของโลกมาอย่างต่อเนื่องเกือบ 6 สัปดาห์แล้ว
อัพเดต Long COVID อาการอ่อนเพลีย/เหนื่อยล้ามีแนวโน้มยาวนานกว่าปี การศึกษาจาก Fernández-de-las-Peñas C และทีมวิจัยในสเปน ติดตามผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 1,593 คน ซึ่งเคยติดเชื้อแล้วได้รับดูแลรักษาในโรงพยาบาล พบว่าหลังออกจากโรงพยาบาลไป มีคนที่ประสบปัญหา Long COVID โดยอ่อนเพลีย/เหนื่อยล้าสูงถึง 60% และแม้เวลาผ่านไปกว่าหนึ่งปี ก็ยังมีคนที่ยังคงมีอาการดังกล่าวในสัดส่วนใกล้เคียงเดิม ลดลงไม่มาก
การศึกษานี้ จึงสะท้อนให้เราเห็นความสำคัญในการป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อ ย่อมจะดีกว่า เพราะหากเกิดติดเชื้อแล้วจับพลัดจับผลูเป็น Long COVID ก็ย่อมส่งผลบั่นทอนสมรรถนะในการดำเนินชีวิตประจำวัน รวมถึงการทำงานได้ในระยะยาว
ใส่หน้ากากนะครับ สำคัญมาก เว้นระยะห่างจากคนอื่น พบปะคนใช้เวลาสั้นๆ เลี่ยงการกินดื่มหรือแชร์ของกินของใช้ร่วมกับผู้อื่น ระมัดระวังกิจกรรมเสี่ยงและสถานที่เสี่ยงต่างๆ
อ้างอิง Fernández-de-las-Peñas C et al. Exploring the recovery curve for long-term post-COVID dyspnea and fatigue. European Journal of Internal Medicine. 28 April 2022.