ครม.อนุมัติร่างการจัดทำ-ร่างบันทึกโครงการจัดสร้างสวนรุกขชาติไทย-ลาว
3 พ.ค. 2565, 16:22
วันนี้ ( 3 พ.ค.65 ) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติการจัดทำและเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลลาวว่าด้วยโครงการจัดสร้างสวนรุกขชาติไทย-ลาว พร้อมอนุมัติให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯดังกล่าว โดยหากจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างบันทึกความเข้าใจฯในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอครม.อีกครั้ง และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็มให้แก่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าว
สำหรับการจัดสร้างสวนรุกชาติไทย-ลาว เป็นโครงการสำคัญตามกรอบการดำเนินงานความร่วมมือไทย-ลาวปี 2561-2564 มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงถึงมิตรภาพและความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกัน เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมและอนุรักษ์พันธุกรรมพืชที่มีค่าหายากและใกล้สูญพันธุ์ รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจทางธรรมชาติแบบยั่งยืนของลาว และเพื่อสร้างความร่วมมือของนักพฤกษศาสตร์ในการศึกษาด้านพันธุ์ไม้ของสองประเทศ โดยสวนรุกขชาติไทย-ลาว ได้ดำเนินการจัดทำโครงการในเขตโรงเรียนมัธยมสมบูนนาซอน บ้านนาซอน เมืองปากงึม นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2562 ไว้สำหรับดำเนินการในเรื่องนี้จำนวน 10.95 ล้านบาท แต่ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างและเบิกจ่ายงบประมาณให้แล้วเสร็จได้ทันตามกำหนดเวลา เนื่องจากความล่าช้าในขั้นตอนการอนุญาตเข้าปฏิบัติงาน จึงทำให้งบประมาณสำหรับการก่อสร้างตกพับไป และบันทึกความเข้าใจฉบับเดิมได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2564
อย่างไรก็ตามทั้งสองฝ่ายยังมีความประสงค์จะดำเนินโครงการจัดสร้างสวนรุกขชาติไทย-ลาวต่อไป ดังนั้นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจึงได้เสนอให้ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจฯฉบับใหม่ในครั้งนี้ โดยยังคงมีเนื้อหาเหมือนฉบับเดิม แต่ได้ปรับขยายระยะเวลาดำเนินโครงการออกไปถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 เพื่อดำเนินโครงการแล้วจำนวน 10.95 ล้านบาท จากงบประมาณโครงการรวม 15.24 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจำนวน 4.29 ล้านบาท เป็นงบประมาณในส่วนของการฝึกอบรมในส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะตั้งของบประมาณเพิ่มเติมเมื่อจัดสร้างสวนรุกชาติไทย-ลาว เสร็จเรียบร้อยแล้วต่อไป