คุมตัว ! "เจ๊ข้าว สระบุรี" ท้าวแชร์-เจ้าแม่เงินกู้ ฉี่ใส่หน้าลูกน้อง ก่อนเอาไปโพสต์ประจานลงโซเชียล
4 พ.ค. 2565, 08:37
วันที่ 3 พ.ค. 65 จากกรณี เมื่อวันที่ 2 พ.ค. เวลา 15.00 น. นายอาร์ม (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี หนุ่ม จยย. รับจ้างทั่วไป พร้อมด้วย น.ส.ปั๊บ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี เซลล์จำหน่ายน้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่ง ทั้งสองคนเป็นชาวสระบุรี เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สมชาย รอดแป้น รอง สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ป. แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ Pensiri Wichian และร้องขอความเป็นธรรม กรณีถูก เจ๊ข้าว สระบุรี ทำร้ายร่างกายแล้วเอาไปโพสต์ประจานในเฟซบุ๊กส่วนตัว และโดนเจ๊ข้าวส่งลูกน้องมาข่มขู่ บอกว่าถ้าไม่อยากมีเรื่องให้ตนไปขอโทษเจ๊ข้าวด่วนเลย
ซึ่งเมื่อวันที่ 29 เม.ย. ตนไลฟ์สดขายกระเป๋ากุชชี่ 3 ใบ ราคา 9 หมื่นบาท ตนเจตนาดีโทรไปบอกเจ๊ข้าว จะได้ติดต่อซื้อก่อน แต่เจ๊ข้าวคิดว่าตนโทรไปเยาะเย้ยหาว่าไม่มีปัญญาซื้อ จึงเกิดการปะทะคมรมโต้เถียงกัน ก่อนให้ลูกน้องผู้ชาย 2 คนมาข่มขู่ให้ตนไปกราบขอโทษที่บ้านเจ๊ข้าว จากนั้นตนเกรงว่าเรื่องจะบานปลายจึงขี่ จยย.ไปพบเจ๊ข้าวที่บ้านพักใน อ.เมือง สระบุรีทันที เวลาหลังเที่ยงคืน
เมื่อไปถึงเจอหน้าเจ๊ข้าว สั่งให้ตนนอนลงกับพื้น โดยมีลูกน้องผู้ชาย 4-5 คนล้อมไว้ ก่อนที่เจ๊น้ำซึ่งสวมชุดนอนอยู่ขึ้นค่อม ถลกชุดนอนแล้วปัสสาวะรดใบหน้าตน พยายามให้เข้าปาก เพื่อสั่งสอนว่าอย่ามาทำปากดีกับเขา พร้อมสั่งลูกน้องถ่ายคลิปไว้ด้วย ตนอยากจะให้เรื่องนี้จบๆ กันไป จึงไม่ได้ไปแจ้งความเอาผิดและเกรงอิทธิพลของเจ๊ข้าว ซึ่งมีพ่อเป็นผู้ใหญ่บ้านแต่เรื่องไม่จบ เจ๊ข้าว เอาเหตุการณ์ปัสสาวะรดหน้าตนไปเขียนโพสต์ประจานลงเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขา ทำให้ตนได้รับความอับอายจากชาวสระบุรีที่รู้จัก เป็นการถูกถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่กระทำกับมนุษย์ด้วยกัน วันนี้จึงตัดสินใจชวน น.ส.ปั๊บ ผู้เสียหายที่โดนทำร้ายอีกรายมาแจ้งความกองปราบ
ด้านเจ๊ปั๊บ ซึ่งอดีตเคยเป็นเพื่อนร่วมทำแชร์มาด้วยกัน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 เมย ตนขัรถมากับเพื่อน 2 คน จะไปตลาดโดนเจ๊ข้าวพร้อมลูกน้อง 10 กว่าคนมาล้อมรถแล้วเรียกให้ตนลงไป เพื่อทวงหนี้ที่เหลือ บังคับให้กราบเท้าขอโทษ มีสาเหตุมาจากตนติดหนี้อยู่ 5 หมื่นแต่ใช้คืนไปแค่ 2.5 หมื่น ยังไม่หมด ก่อนจะเอาโทรศัพท์มือถือตบเข้าที่ใบหน้า แล้วบังคับให้ก้มกราบเท้าก่อนจะทุบหลังอีก 1 ครั้ง แล้วใช้เท้าเหยียบคอซ้ำ พร้อมกับข่มขู่ว่าอย่าให้เจอที่ไหนจะกระทืบซ้ำอีก
ต่อมาวันนี้ พล.ต.ต ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภจว. สระบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดสระบุรี นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านของ นาง เพ็ญศิริ วิเชียร อายุ 32 ปี (เจ๊ข้าว) อยู่บ้านเลขที่ 29 /71 บ้านพันดารา2 ต.โคกสว่าง อ. เมือง จ.สระบุรี ได้เข้าทำการตรวจค้นภายในบ้าน โดยไม่ให้สื่อมวลและผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องเข้าไปภายในบ้าน จากการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายและสิ่งที่เชื่อมโยงในคดี
ากนั้นได้นำตัว นาง เพ็ญศิริ วิเชียร (เจ๊ข้าว) มาสอบปากคำที่ สภ.เมืองสระบุรี โดยมี.พล.ต.ต ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภจว. สระบุรี สอบสวนด้วยตัวเอง ซึ่ง นาง เพ็ญศิริ วิเชียร (เจ๊ข้าว) ให้การรับสารภาพ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตั้งข้อกล่าวหารวม 3 ข้อหา 1.ทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ 2. ดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า 3.หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทางด้าน พล.ต.ต ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภจว. สระบุรี กล่าวว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปนำตัว นาง เพ็ญศิริ หรือข้าว มาสอบสวนให้การเป็นประโยชน์ตามที่น้องเขาให้ข้อมูลเมื่อสักครู่ ได้ยอมรับสารภาพว่าทำผิดจริง ตามที่ผู้เสียหายได้มา แจ้ง และจะดำเนินการตามกฎหมาย ในฐานความผิดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ตอนนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวน เพราะว่าผู้ ต้องการยังสอบสวนไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อน และก็จะสอบสวนทั้ง 2 ฝ่าย และจะให้ความเป็น ธรรมกับคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย เพราะเขาบอกว่า รู้จักกันดี ทำงานอยู่ด้วยกัน ซึ่งมีเรื่องไม่ถูกใจและทะเลาะกัน เบื้องต้นที่ สอบสวนไว้ก็จะมีข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ , ดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า ,หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่งอันนี้เท่าที่ข้อเท็จจริงปรากฏในขณะนี้ อย่างไรต้องสอบสวนอีกที และจะตรวจสอบทั้งหมด เบื้องต้นต้องถามทางฝ่ายผู้เสียหายนำมาสอบสวนอีกที ซึ่งช่วงนี้น่าจะไปทำธุรกิจส่วนตัวอยู่ จะเรียกมาสอบสวนอีกที และจะว่าไปตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
ส่วนนางเพ็ญศิริ วิเชียร (เจ๊ข้าว) เผยว่า การที่จะมีการฉี่ใส่หน้า อาร์มเป็นลูกน้องที่คอยวิ่งซื้อของให้ตน และคอยเข้าออกบ้านเรามาตลอด ซึ่งเลี้ยงไว้เหมือนลูกคนนึง ทีนี้วันนี้เขาเอากระเป๋าแบรนด์เนมมาขายให้ตน 3 ใบ 8หมื่นบาท กระเป๋าที่อาร์มส่งมาขายให้ตน ซึ่งเป็นรุ่นที่ตนมีแล้วทุกรุ่น จึงได้พูดกับน้องไปตามภาษาที่คุยกัน ว่า กระเป่าที่มึงส่งมาให้ กูมีแล้วทุกรุ่นเลย และกูก็ขายให้เขาไปหมดแล้ว สภาพกูดีกว่านี้มันยังขายได้ไม่ถึง 8หมื่นเลย สภาพแบบนี้มันไม่น่าถึง8หมื่นหรอก น้องมันจึงได้ถามมาว่า แล้วจะให้ราคาเท่าไหร่ ลองเสนอมา แต่ตนไม่ได้ตอบ เพราะไม่ได้คิดที่จะซื้อ จึงได้เงียบไป สักพักน้องมันขึ้นสเตตัสว่า คนจริงไม่พูดเยอะ 3ใบ 9หมื่น เหมือนประมาณว่าขายได้แล้ว แต่ความเป็นจริง ณวันนี้กระเป๋าก็ยังขายไม่ได้ ซึ่งเรารู้ว่าใครเป็นเจ้าของกระเป๋า และรู้ว่ากระเป๋าอยู่กับใคร แต่สิ่งที่มันมาโพสว่าขายได้ ซึ่งตัวเรารู้สึกว่า ลักษาณะนิสัยอาร์ม ถ้าใครติดตามจะรู้ว่าเขาเป็นคนที่มีปัญหากับใครไปทั่ว พอเราเห็นเขามาพูดแบบนี้ก็เกิดความโมโห โพสแบบนี้ว่าเราหรือเปล่า ว่าเราหรือเปล่า โพสแขวะแบบนี้ จึงได้ไปเม้นใต้โพสมันว่า ขายกระเป๋าได้เงินแล้วก็เอาเงินมาใช้หนี้นะ ซึ่งเราไม่คิดว่ามันจะด่าเราขนาดนี้ และท้าทาย ส่วนเรื่องที่ปัสวะ ตนปัสสวะรดหน้าเขาจริง เพราะตนโมโหและแค้นที่มาท้าทาย แต่ตนไม่ได้นั่งเหมือนตามในข่าว ตนใส่ชุดนอนนุ่งผ้าขนหนูยาวถึงเข่า และเดินฉี่ตั้งเท้าไปหน้าและเดินลงมา โมโหที่เขาบอกว่า เราไม่มีปัญญา น้ำหน้าอย่างมึงจะทำอะไรกูได้ ซึ่งเราไม่ได้อยากให้เขาเจ็บตัว แต่อยากให้จำ ถึงได้ทำแบบนี้ออกไป และรู้ว่าผิดเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำ
ส่วนกรณีของคุณปั๊บ โกงเรามา 3 รอบ โกงมาตลอด และตนให้อภัยมาตลอด และยอดเงินไม่เต็มไปตามข่าว ขอองปั๊บจะไม่ขอพูดถึง แต่ยืนยันเลยว่า ตามเนื้อข่าวที่ฝั่งนู้นพูด ไม่มีมวลความจริง ยอดเงินก็ไม่ตรง ยอดเงินที่บอกว่าเป็นหนี้5หมื่น ไม่ใช่แน่นอน ตนมีหลักฐาน และจะให้การกับตำรวจเป็นการส่วนตัว ครั้งแรกเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ยอดเงินเหลือ 6 หมื่นกว่าบาท ตัดทิ้งไปได้เพราะมันนานแล้ว เพราะตนไม่มีหลักฐานแล้ว แต่ตัวเขารู้ดีว่ายังใช้ไม่หมด ครั้งที่2 แสนกว่าบาท ยังมีหลักฐานอยู่ ส่วนครั้งที่ 3 ที่เลิกคบกันและไล่ออกไป 6 หมื่นบาท แต่ใช้มาแล้วเหลือ 3 หมื่น สรุปแล้วยอดก็เหลือแสนกว่าๆ ส่วนละเอียดต่างๆขอไม่พูดถึง
.