แม่สุดทน ! พา "ลูกสาววัย16 ปี" แจ้งความ หลังถูกผู้นำชุมชนทำอนาจาร
7 พ.ค. 2565, 08:36
วันนี้ 6 พ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางเอ นามสมมติ อายุ 39 ปี พร้อม นางสาวบี นามสมมติ บุตรสาว อายุ 17 ปี ชาวบ้านบ้านทุ่งสมอ ต.ทุ่งสมอ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เดินทางมายัง ที่ สภ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เข้าพบ พ.ต.อ.อำนาจ เอี่ยมใจดี ผกก.สภ.พนมทวน พ.ต.ท ภควรรติ กลั่นบุศย์ รอง ผกก.(สอบสวน)ฯ ร.ต.ท.ธิติ นกจันทร์ รองสารวัตร (สอบสวน)ฯ เพื่อเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับ กับนายซี (นามสมมติ) ชาวบ้านตำบลทุ่งสมอเช่นกัน โดยกล่าวหาว่า นายซีได้ก่อเหตุทำการลวนลามอนาจารและข่มขืนเด็กอายุ16 ปี โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นมาตั้งแต่ ปี 2563
โดย นางเอ ได้กล่าวกับพนักงานสอบสวนว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ทั้งสองคนแม่และลูกได้ประสบความชอกช้ำและกดดันทางสภาพจิตใจไร้เกียรติศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์มาตลอดระยะเวลาตลอด 1 ปีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกสาวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยการกระทำของ นายซี โดยนางเอเล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 21 พ.ย. 63 โดยนายซี เป็นหัวหน้าเขตพนมทวนของมูลนิธิดังแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ที่ดิฉันและลูกสาววัย 16 ปี เป็นจิตอาสากู้ภัยดังกล่าว ในสังกัด และดิฉันพร้อมลูกสาวได้แจ้งผู้ใต้บังคับบัญชาของ นายซี จนถูกผู้บังคับบัญชา มีคำสั่งให้พักการปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว และ นายซี ก็ได้เตรียมลงสมัครผู้นำท้องถิ่นในขณะนี้ด้วย ตนเองเกรงว่าหากได้รับการคัดเลือกเข้าไปแล้ว จะทำให้ชุมชนเดือดร้อน รวมถึงครอบครัวตนเองด้วย จึงได้มาร้องขอความเป็นธรรมกับ ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี และพนักงานสอบสวน สภ.พนมทวน ในครั้งนี้ และหลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะได้ติดต่อทางทีมสหวิชาชีพ ร่วมทำการสอบสวน จากนี้ทางเจ้าหน้าที่จำได้มีการติดตามตัว นายซี มาสอบสวนเรื่องดังกล่าวต่อไป
ซึ่งพฤติกรรมของนายซี ได้ใช้ช่วงจังหวะเวลาโอกาสที่ปฏิบัติหน้าที่และอยู่ลำพังกับลูกสาว กระทำการลวนลามอนาจารลูกสาวของดิฉันบ่อยครั้ง และยังขู่บังคับไม่ให้ลูกสาวเล่าให้ดิฉันฟัง ต่อมาจนกระทั่งในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 นายซี ได้ล่อลวงลูกสาวของดิฉันลวนลามอนาจารข่มขืนลูกสาวของดิฉันจนสำเร็จความใคร่ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ดิฉันและครอบครัวตลอดจนชาวบ้านตำบลทุ่งสมอ ได้รับรู้เรื่องราวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ดิฉันและครอบครัวสติแตกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยสภาพจิตใจของลูกสาววัย 16 ปี หวาดกลัวมากจนไม่เป็นอันจะทำการงานใดๆ ซึ่งได้มีบุคคลหลายท่านรวมถึงผู้มีพระคุณกับครอบครัวของเราได้เข้ามาพยามยามพูดคุยไกล่เกลี่ยเรื่องราวดังกล่าว ไม่ให้ดิฉันและครอบครัวเอาเรื่องกับนายซี ต่อมาได้มีการพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ยกัน ทางภรรยาของนายซี ที่มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้มาร่วมพูดคุยเจรจาไม่ให้เอาเรื่อง โดยมีการเสนอเงินเป็นจำนวนหกหมื่นบาท ให้ดิฉันและครอบครัวแต่ทางดิฉันและครอบครัวไม่ยอมรับ
หลังจากนั้นได้มีบุคคลเข้ามาพูดคุยกับดิฉันและครอบครัวอีก คือป้าเล็กซึ่งเป็นบุคคลที่ทางครอบครัวของดิฉันให้ความเกรงใจมาบอกให้รับเงินสามหมื่นบาท แล้วให้จบเรื่อง ดิฉันและครอบครัวได้ปรึกษากันแล้วว่าจะรับเงินดังกล่าว เพื่อให้เป็นหลักฐานเอาไว้ดำเนินคดีกับนายซี
ต่อจากนั้นก็มีอีกบุคคลหลายท่านเข้ามาพูดคุยเพื่อไม่ให้ทางดิฉันและครอบครัวดำเนินคดีกับทางนายซี ซึ่งในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางดิฉันและครอบครัวมีความเกรงกลัวอิทธิพลและเครือข่ายของนายซี ไม่กล้าไปแจ้งความ ไม่กล้าที่จะไปพึ่งพาหน่วยงานของภาครัฐให้ช่วยเหลือได้แต่ทุกข์ระทมใจเพราะถูกฝ่ายของนายซี เหยียดหยามเย้ยหยันทั้งคำพูดและกิริยาว่าไม่สามารถที่จะทำอะไรเค้าได้
จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ดิฉันและครอบครัวได้ทราบข่าวทางทีวี กรณีของรองหัวหน้าพรรคการเมืองมีเรื่องของการกระทำลวนลามอนาจารของผู้หญิงซึ่งถือว่าเป็นผู้นำในระดับประเทศที่มีพฤติกรรมเช่นเดียวกับนายซี ปัจจุบันได้ลงสมัครผู้นำท้องถิ่น ของตำบลทุ่งสมอ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี
ซึ่งการกระทำพฤติกรรมของนายซี ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรมคุณธรรมศีลธรรมอันดีเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคมหรือไม่สมควรแก่เป็นผู้สมัครและหากได้รับการเลือกตั้งจะเป็นที่เสื่อมเสียของหน่วยงานภาครัฐภายใต้การปกครองของกระทรวงมหาดไทย
ดังนั้นเราสองแม่ลูกจึงมาขอความอนุเคราะห์จากตำรวจช่วยตรวจสอบและส่งเรื่องที่ดิฉันร้องเรียนนี้ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงมาแจ้งความดำเนินคดีกับนายธรรมนิ จันทฤทธิ์ เพื่อขอให้ทางตำรวจช่วยให้เกิดความเป็นธรรมต่อครอบครัวของเรา และเพื่อเป็นการแจ้งต่อสังคมให้รับทราบถึงพฤติกรรมของคนที่เสนอตัวจะเป็นผู้นำในชุมชนว่าเขามีพฤติกรรมที่ไม่ดีแบบนี้อีกด้วย
ด้าน พ.ต.ท ภควรรติ กลั่นบุศย์ รอง ผกก.(สอบสวน) เปิดเผยว่า ทางพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้ว วันนี้สอบปากคำแม่ของผู้เสียหาย และจะนัดหมายสอบปากคำผู้เสียหายที่เป็นเยาวชนต่อหน้าสหวิชาชีพ และจะรีบรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอต่อผู้กำกับเพื่อพิจารณาสั่งการตามระเบียบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ ก่อนหน้าที่จะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.พนมทวน นางเอและนางสาวบีสองแม่ลูก ได้เดินทางไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี โดยยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เรื่องร้องขอความเป็นธรรมให้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครลงเลือกตั้ง ผู้นำชุมชนที่ขาดจริยธรรมคุณธรรมเหมาะสมหรือไม่ กรณีทำลวนลามอนาจารขมขืนเด็กอายุ 16 ปี และดูถูกเยียดหยามศักดิ์ศรีของครอบครัวผู้เสียหาย ด้วยเช่นกัน
บรรยายภาพ นางเอ นามสมมติ อายุ 39 ปี พร้อม นางสาวบี นามสมมติ อายุ 17 ปี บุตรสาว ชาวบ้านบ้านทุ่งสมอ ต.ทุ่งสมอ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เดินทางมายัง เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท ภควรรติ กลั่นบุศย์ รอง ผกก.(สอบสวน)ฯ ร.ต.ท.ธิติ นกจันทร์ รองสารวัตร (สอบสวน)ฯ ให้ดำเนินคดีกับ กับนายซี (นามสมมติ) ชาวบ้านตำบลทุ่งสมอ เช่นกันโดยกล่าวหาว่า นายซี ได้ก่อเหตุทำการลวนลามอนาจารและข่มขืนเด็กอายุ16 ปี โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นมาตั้งแต่ ปี 2563 ดิฉันพร้อมครอบครัวก็ต้องมีศักดิ์ศรีของการเป็นมนุษย์ ไม่ใช่ผิดแล้วเอาเงินมาฟาดหัวให้เรื่องจบไปเท่านั้น