เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ผอ.สพม.เขต 33 เรียก ผอ.แนะแนวทาง ร.ร.ปรับกฎใหม่ ปมร้องเพลงชาติ-เพลงสรรเสริญไม่ดัง ถูกตัดคะแนน


10 พ.ค. 2565, 17:46



ผอ.สพม.เขต 33 เรียก ผอ.แนะแนวทาง ร.ร.ปรับกฎใหม่ ปมร้องเพลงชาติ-เพลงสรรเสริญไม่ดัง ถูกตัดคะแนน




ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้า กรณีที่มีเพจนักเรียนเลว ได้มาโพสต์ในสื่อโซเชี่ยลแล้วเป็นประเด็นมากอยู่ในขณะนี้ทำให้เป็นที่สนใจของประชาชน และได้โพสต์ในเพจนักเรียนเลวว่า

โรงเรียนออกกฎร้องเพลงชาติ-เพลงสรรเสริญไม่ดัง ถูกตัด 10 คะแนน ไม่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นความผิดร้ายแรง

โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ ออกระเบียบการตัดคะแนนพฤติกรรมของนักเรียน โดยพบว่ามีหมวดลักษณะความผิดต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ระบุไว้ดังนี้

ไม่กระทำพิธีการทางศาสนาด้วยความเต็มใจ ตัดคะแนน 5 คะแนน

ไม่ยืนตรงเคารพธงชาติและเพลงสรรเสริญ ตัดคะแนน 10 คะแนน

ไม่ร่วมเปล่งเสียงร้องเพลงชาติ เพลงสรรเสริญอย่างดัง ตัดคะแนน 5 คะแนน

ไม่เป็นนักเรียนที่ดีของโรงเรียนและประเทศ ตัดคะแนน 10 คะแนน

กระทำการอันเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงของสถานบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตัดคะแนน 50 คะแนน

ทั้งนี้ยังมีรายงานว่า ในวันปฐมนิเทศน์ ผู้อำนวยการของโรงเรียนได้กล่าวต่อหน้านักเรียนว่า “ใครรับไม่ได้ก็ไม่ต้องเรียน ให้ลาออกไป” ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว




ล่าสุดวันนี้ (10 พ.ค.65) เวลา 09.30 น.ที่ สนง.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ เขต 33 ดร.สำเริง บุญโต ผอ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ ได้เรียกตัวผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว มาประชุมและแนะนำแนวทาง เพื่อให้ปรับปรุงกฎระเบียบให้เป็นไปตามนโยบายที่ทางกระทรวงศึกษาธิการ และทาง สพฐ.ที่เป็นหน่วยงานต้นสังกัดกำหนด ซึ่งมีกฏเกณฑ์การประเมินในหลักสูตรอยู่แล้ว ด้าน ผอ.โรงเรียนดังกล่าวจะได้นำแนวทางไปแก้ไขปรับปรุงต่อไป

ดร.สำเริง บุญโต ผอ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับโรงเรียนสังขะในสังกัด สพม.สุรินทร์ เขต 33 ได้มีเพจขึ้นข้อมูลระเบียบของโรงเรียนตัดคะแนนความประพฤติตามที่เป็นข่าวนั้น จริงๆถ้าดูที่เจตนา โรงเรียนก็มองเรื่องการที่จะดูแลพฤติติกรรม ระเบียบวินัยของนักเรียน ตนก็ได้ตรวจสอบข้อมูล และก็ได้พูดคุยกับ ผอ.โรงเรียน และได้เอาระเบียบของโรงเรียนที่ได้จัดทำขึ้นมาวิเคราะห์ดู ซึ่งโรงเรียนก็ได้จัดทำระเบียบ การตัดคะแนนความประพฤติของนักเรียน ภายใต้ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนนักศึกษาปี 2548 ในข้อ 9 ซึ่งการตัดคะแนนความประพฤติ ซึ่งโรงเรียนก็สามารถออกระเบียบที่จะมากำหนด แต่พอไปดูในรายละเอียดระเบียบ ในการตัดคะแนนความประพฤตินั้น ซึ่งมันมีรายละเอียดที่เป็นเชิงคุณลักษณะของนักเรียน ซึ่งมันมีการประเมินลักษณะของผู้เรียนตามหลักสูตร ที่ปรากฏอยู่ในหลักสูตรแล้ว เพราะฉะนั้นการออกกฎระเบียบตัดคะแนนความประพฤติ ควรจะระบุให้ชัดเจนตามแนวทางระเบียบด้วยว่าการลงโทษนักเรียนนักศึกษา เช่น ถ้าเป็นพฤติกรรมที่



ความผิดไม่ร้ายแรง ก็จะว่ากล่าวตักเตือนก่อน หรือถ้าผิด แต่ทำให้เกิดการเสื่อมเสียไม่ร้ายแรง ก็อาจมีการทำทันบนก่อน หลังจากนั้นถ้ามีพฤติกรรมซ้ำ ค่อยมากำหนดระเบียบการตัดคะแนนความประพฤตินักเรียน ซึ่งตรงนี้ต้องออกระเบียบให้ชัดเจน หรือถ้า เป็นความผิดของนักเรียนที่ไม่ร้ายแรงในลักษระนี้ ก็ต้องระบุให้ชัดเจอะไรที่เป็นความผิดในเชิงวินัยที่ฝ่าฝืนทำให้เสื่อมเสียโรงเรียนร้ายแรง เท่าที่ตนดูรายละเอียดหลักเกณฑ์การประเมินลงรายละเอียดในเรื่องของการ ประเมินคุณลักษณะ ที่พึงประสงค์นักเรียน แล้วไปตัดคะแนนความประพฤติ ซึ่งตนได้เชิญผู้บริหารโรงเรียน มาทำความเข้าใจและให้ไปปรับระเบียบ ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่จะต้อง การมุ่งเสริมสร้างวินัยเชิงบวก ของนักเรียน โดยการออกระเบียบให้มีตัวแทนของนักเรียน มามีส่วนร่วม เมื่ออกระเบียบเสร็จแล้ว ก็นำเสนอ คณะกรรมการสถานศึกษาให้การเห็นชอบ ส่วนเกี่ยวกับการตัดคะแนนความประพฤติโรงเรียนต้องไประบุ ชัดเจนว่าอะไรที่เป็นพฤติกรรม ร้ายแรงทำให้โรงเรียนเสื่อมเสีย หรือประเด็นอะไรที่ว่า กล่าวตักเตือนหรือทำทันบนไว้แล้วนักเรียนยังมีพฤติกรรมเกิดขึ้นในลักษณะนี้

ซึ่งท่าน ผอ.ก็จะนำแนวทางไปปรับปรุง ให้เป็นไปตามนโยบายที่ทางกระทรวง และทาง สพฐ.ที่เป็นหน่วยงานต้นสังกัด ซึ่งมีเกณฑ์การประเมินในหลักสูตรอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเวลาออกระเบียบก็ไม่ควรไปตัดคะแนนเหล่านี้เป็นต้น แต่อาจจะเป็นวินัยเชิงบวกหรือมีเกณฑ์ประเมินว่า เป็นระดับ แต่ไม่ใช่ลักษณะเป็นการตัดคะแนน ซึ่งก็ได้แนะนำท่าน ผอ.ไปปรับปรุงแก้ไขให้ชัดเจนต่อไป แต่โดยเจตนาโรงเรียนก็มีเจตนาดี เพื่อควบคุมวินัยนักเรียน ให้เป็นนักเรียนที่มีคุณลักษณะพึงประสงค์ เพียงแต่ว่าการออกระเบียบอะไรต่างๆที่กระทบก็ควรให้เด็กเข้ามีส่วนร่วม ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาอย่างนี้ก่อนประกาศใช้


 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.