จ่อโดนยักยอกทรัพย์ "อดีตพระกาโตะ" พบเบิกเงินวัด มากกว่า 6 แสน
11 พ.ค. 2565, 11:06
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 65 มีรายงานว่า นายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยกรรมาธิการ แถลงข่าวภายหลังการประชุมของคณะกรรมาธิการที่ใช้เวลาพิจารณาร่วม 2 ชั่วโมง ในการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมชี้แจงและให้ข้อมูลกรณี "อดีตพระกาโตะ" และ สีกาตอง ที่เกิดขึ้น ณ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และผู้แทนจากกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ
นายสุชาติ กล่าวว่า ในการประชุมของคณะกรรมาธิการครั้งนี้เป็นการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีหน้าที่และอำนาจตามกฏหมายในกรณีอดีตพระกาโตะเข้าชี้แจงทั้งข้อกฎหมาย กฎกระทรวง และกฎเถระสมาคมจนท้ายที่สุดได้ข้อสรุปทั้งด้านกฎหมาย และแนวทางว่าจะดำเนินการในกรณีดังกล่าวต่อไปอย่างไร ส่วนกรณีของอดีตพระกาโตะที่ปาราชิกแล้วจะกลับมาบวชใหม่ได้หรือไม่ ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ชี้แจงว่า ยังไม่มีฐานข้อมูลที่ปรับเป็นปัจจุบันของวัดและสำนักสงฆ์กว่า 42,000 แห่ง และข้อมูลของพระภิกษุสงฆ์กว่า 250,000 รูป ดังนั้นการยืนยันตัวบุคคลจึงยังไม่อัพเดท ดังนั้นหากเกิดกรณีอดีตพระสงฆ์ที่ปาราชิก กลับมาบวชใหม่จึงไม่สามารถมีข้อมูลที่อัพเดทได้
ส่วนการแต่งตั้งรักษาการแทนเจ้าอาวาสตามพระราชบัญญัติสงฆ์ มาตรา 36,37,39 ในกรณีอดีตพระกาโตะ โดยยืนยันว่า อดีตพระกาโตะไม่ถือเป็นเจ้าพนักงานตามกฏหมายเนื่องจากไม่มีคำสั่งแต่งตั้งตามระเบียบ
สำหรับเรื่องการเปิดบัญชีของวัดเพ็ญญาติ ได้มีการตรวจสอบแล้วเป็นการเปิดบัญชีที่ถูกต้องตามกฏหมาย แต่ในส่วนของผู้มีอำนาจเบิกจ่ายเงินในบัญชีพบว่าไม่เป็นไปตามระเบียบ เนื่องจากรายชื่อผู้เบิกจ่ายเงินวัดที่ผ่านมาไม่ใช่รักษาการเจ้าอาวาส หรือไวยาวัจกร ซึ่งประเด็นนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าพนักงานตามกฏหมายพิจารณาสืบสวนต่อไป
ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนาฯ ยืนยันว่า จากการสืบสวนเบื้องต้นอดีตพระกาโตะ ได้เบิกจ่ายเงินออกจากวัดมากกว่า 6 แสนบาท ตามที่เปิดเผยต่อสื่อมวลชนก่อนหน้านี้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าตัวเลขเบิกจ่ายเงินเฉพาะเดือนเมษายนนั้นก็มากกว่า 6 แสนบาทแล้ว และน่าจะทะลุ 1 ล้านบาท จากนี้ทางกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ จะตรวจสอบต่อไปซึ่งในกรณีนี้จะเข้าข่ายการยักยอกทรัพย์ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องกับอดีตพระกาโตะด้วย
"อย่างไรก็ตามหลังจากนี้เมื่อพระสงฆ์ปาราชิกแล้ว จะไม่เพียงสึกอย่างเดียวซึ่งจะมีโทษทางอาญาทั้งอดีตพระและสีกาที่ทำผิดด้วยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและอุปถัมภ์พระพุทธศาสนา ที่อยู่ระหว่างการยกร่างพระราชบัญญัติของคณะกรรมาธิการ โดยมีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปีและปรับสูงสุด 100,000 บาท"ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนาฯ กล่าว
นายสุชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กำลังปรึกษาเรื่องการแก้กฎหมายและแก้ระเบียบใหม่ ต่อไปความผิดการมั่วสุมสีกาจะมีความผิดทั้งหญิงและชาย กมธ.ได้ยื่นร่าง พ.ร.บ.อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาเข้าสภาฯ แล้ว เมื่อเปิดประชุมสภาฯ คงมีการพิจารณา โดยมีบทลงโทษจำคุก 1-5 ปี หรือปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 100,000 บาท ส่วนผู้หญิงที่เข้าไปถึงในวัด และมีปัญหาเรื่องเพศสัมพันธ์ หรือนัดเจอกันข้างนอก ควรมีโทษทางอาญาเช่นกัน เพราะเป็นเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจชาวพุทธ เรื่องนี้พศ.ต้องไปทำฐานข้อมูลให้ชัดเจน ฉับไว ไม่ใช่ปล่อยให้สื่อหรือองค์กรอื่นเดินหน้าไปและมาตามไล่หลัง