วันนี้ 13 พ.ค.65 เวลา 20.00 น. สภ.เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามี 2พ่อลูก ตกรถไม่มีเงินซื้อตั๋วกลับบ้าน ได้อุ้มลูกเดินตามถนนขอความช่วยเหลือ ที่ ถ.พิชัยรณรงค์สงคราม ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี  มุ่งหน้าเดินไปทางประปา จึงได้วิทยุให้ตำรวจสายตรวจรถจยย.ไปตรวจสอบที่ถนนสายดังกล่าว 

จนพบ 2 พ่อลูก นั่งอยู่ หน้าร้านสะดวกซื้อเอกภาพ ตรงข้ามโรงเรียนเทศบาล10  จึงได้ทำการตรวจสอบ ขอดูบัตรประชาชน ทราบชื่อนายอภิรชาติ มีสมมนต์ อายุ 36 ปี พร้อม ลูกชาย ชื่อ น้องต้นไม้ อายุ 2 ปี กำลังวิ่งเล่นอยู่ เบื้องต้นทราบว่า ภรรยาของนาย อภิรชาติ ได้ทิ้งให้อยู่กับลูก 2 คน มาเป็นเวลา 6 เดือนแล้ว  ที่เดินทางมาจ.สระบุรี  เพื่อจะมาตามหาหัวหน้า ที่เบี้ยวเงินค่าแรงไปประมาณหมื่นกว่าบาท ซึ่งเป็นเงินก้อนสุดท้าย นึกเสียดาย มีเงินอยู่พันกว่าบาท จึงได้อุ้มลูกขึ้นรถทัวร์มาตามหาแต่ไม่เจอ จนเงินหมดกลับบ้านไม่ได้ จึงได้เที่ยวเดินขอความช่วยเหลือ ได้ไปขอข้าวและนมที่วัดกินกับลูก  จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างสระบุรี นำรถมารับไปส่งที่ บขส.สระบุรี พร้อมมอบเงินค่ารถให้จำนวนพันกว่าบาท เพื่อเดินทางกลับบ้านที่จ.แม่ฮ่องสอน ได้มีเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ที่ประจำอยู่บขส. ได้มาบอกว่า รถที่จะไปจ.แม่ฮ่องสอนไม่มี ต้องไปขึ้นที่กรุงเทพ และต่อรถไปที่จ.แม่ฮ่องสอน  เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก จึงให้ขึ้นรถตู้พร้อมมอบเงินให้อีกหลายร้อยบาท เพื่อเอาไว้ให้ซื้อนมให้เด็กกิน และได้ออกเดินทางไปกทม.ต่อไป

นายอภิรชาติ มีสมมนต์  เล่าว่า ตนเองมาจาก จ.เพชรบูรณ์  เพื่อมาหาบ้านของนายช่างที่ จ.สระบุรี เพราะเขาเคยพามาร้านแถวนี้ แต่ไม่เจอ ตนจำไม่ค่อยได้  เดินมาเรื่อยๆจนเงินค่ารถเหลืออยู่ 70 บาท ก็ซื้อน้ำให้ลูกกิน หลังจากนี้ก็จะกลับบ้านที่ จ.แม่ฮ่องสอน เพราะตนทำงานส่งน้ำอัดลมและเช่าบ้านอยู่ที่นั่น  ส่วนแม่ของลูกทิ้งไป 6 เดือนแล้ว ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะช่วยส่งตนกลับบ้าน ส่วนลูกชื่อ น้องต้นไม้ เพศชาย อายุ 2 ปี  นายจ้างได้ชิ่งเงินของตนไปหมื่นกว่าบาท เพราะมันเป็นเงินก้อนสุดท้าย หลังจากนั้นตนจึงได้ถามคนแถวนั้นว่า วัดอยู่ไหน เขาจึงได้พาไป และได้ไปเจองานศพที่วัด เขาก็ได้ให้กินข้าวและให้เงินมา 200บาท และได้ให้นมมาให้ลูกกิน  ถ้าวันนี้ตนไม่มีเงินกลับบ้าน ก็ไม่รู้จะนอนที่ไหน  ตนไม่ได้ขอเงิน และไม่ได้บอก พี่เขามาเจอ เลยประสานงานให้ ตอนนี้รู้สึกดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือ และจะเดินทางไปกรุงเทพก่อนเพื่อต่อรถไปจ.เพชรบูรณ์ แล้วเงินที่ตำรวจให้คิดว่าน่าจะถึงบ้านพอดี 

ทางด้านจ่าตำรวจ ชัยพร มหาหิงศ์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้ช่วยเหลือ เพราะสงสารเด็ก และดีใจที่เขามีค่านมค่ารถกลับบ้าน ตนเองช่วยไปประมาณพันกว่าบาท