จากกรณีทางด้านเฟซบุ๊ก หมอปลาช่วยด้วย ได้ออกมา ตีแผ่ด้านมืดของวงการศาสนาอย่างต่อเนื่อง ลงพื้นที่ตรวจสอบวัดป่าแห่งหนึ่งใน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร   หญิงสาวได้ส่งคลิปวิดีโอแฉพฤติกรรมหลวงปู่ชื่อดัง ที่ในคลิปหลวงปู่ลูบหัว จับแก้มและโอบกอด โดยหญิงดังกล่าว หลวงปู่มีการเอื้อมมาสัมผัสหน้าอกตน ตกใจและได้ถอยออกมา 

ต่อมาทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดยโสธร ได้ลงพื้นที่และเผยว่าหลวงปู่ อายุ 100 ปี พรรษา 72 เป็นโรคอัลไซเมอร์และมีอาการอาพาธไม่สามารถเดินได้ แต่ปรากฏว่าคนจำนวนไม่น้อยรู้สึกไม่สบายใจ เพราะมองว่า หลวงปู่แสง อายุมากแล้วและยังป่วยอัลไซเมอร์ เดินไม่ได้ จึงอาจทำไปเพราะไม่รู้ตัว
 

ล่าสุด(13พ.ค.65) ทางด้าน ไพรวัลย์ หรืออดีตพระมหาไพรวัลย์ ได้ออกมาโพสต์ถึงหมอปลาในฐานะน้อง โดยได้ระบุว่าๆ "ผมจะขอพูดถึงพี่หมอปลานะครับ พูดในฐานะของกัลยาณมิตร ของน้องชายที่นับถือกัน ในเคสของหลวงปู่แสงที่เกิดขึ้น ผมมองว่า พี่หมอปลาไม่ได้ทำอะไรซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดบาปทั้งหมดนะครับ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรที่ถูกต้องทั้งหมด จนไม่มีข้อต้องตำหนิเช่นกัน  อันนี้ผมอยากให้เราแยกแยะนะครับ ทั้งคนที่ชื่นชอบและไม่ได้ชื่นชอบพี่หมอปลาการที่พี่หมอปลาเข้าไปตรวจสอบกรณีของหลวงปู่แสง มันมีทั้งคุณและก็มีทั้งโทษ มีทั้งส่วนที่ถูกและส่วนที่ผิด ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พูดถึงส่วนที่ถูกนะครับ คืออย่างน้อยต่อเรื่องนี้ พี่หมอปลาก็ทำให้สังคมได้เห็นว่า มีเรื่องไม่ปกติหรือไม่ชอบมาพากลอะไรขึ้นกับหลวงปู่แสงบ้าง ทำให้สังคมโดยเฉพาะก็คนที่นับถือหลวงปู่ ได้รู้อย่างแน่ชัดว่า ตอนนี้หลวงปู่มีอาการอาพาธอะไร และควรจะได้รับการอุปฐากดูแลแบบไหน นี่ไม่รวมถึงความไม่เอาไหนและใช้ไม่ได้ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงปู่อีกนะครับเป็นเรื่องที่น่ากลัวว่า หากเรื่องนี้ไม่เป็นที่วิจารณ์ในวงกว้าง หลวงปู่จะต้องตกเป็นเครื่องมือ หรือที่ครหาปรามาสของผู้ที่แสวงหาประโยชน์ ตลอดจนถึงผู้ที่ไม่เข้าใจในข้อเท็จจริงอีกนานเพียงใด