รวบวัยรุ่นเมียนมา 224 คน ลักลอบข้ามแดนหางานทำ เตรียมผลักดันกลับประเทศ
20 พ.ค. 2565, 14:07
วันที่ 20 พฤษภาคม 65 มีรายงานว่า นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝายปกครองร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน, เจ้าหน้าที่ ชรบ.ตำบลเกาะหลัก ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองประจวบฯ จับกุมแรงงานชาวเมียนมาร์พร้อมสัมภาระ ขณะเดินเท้าหลบหนีเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติ ช่องสิบศพ จำนวน 224 คน เป็นชาย 140 คน หญิง 83 คน และเด็กหญิงอีก 1 คน โดยส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นหนุ่มสาว อายุประมาณ 20-30 ปี จึงควบคุมตัวไว้ที่บริเวณชายป่าริมถนนสายทุ่งเคล็ด-ด่านสิงขร หมู่ 6 ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบฯ เพื่อตรวจสอบประวัติ จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารได้นำชาวเมียนร์มาทั้งหมดผลักดันออกนอกประเทศทันที
ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า แรงงานชาวเมียนมาทั้งหมดเดินทางมาจาก เมืองย่างกุ้ง รัฐยะไข่ ภาคพะโค จังหวัดมะกุย จังหวัดทวาย เมืองเนปิดอว์ จังหวัดเมาะลำไย จังหวัดมัณฑะเลย์ แล้วมาพักคอยที่บ้านมูด่อง ฝั่งประเทศเมียนมาร์ จากนั้นรอคนนำทางพาเดินเท้าข้ามแดนแนวเทือกเขาตะนาวศรีผ่านช่องทางธรรมชาติ เพื่อมารอนายหน้าฝั่งไทยมารับไปส่งยังที่หมายปลายทาง โดยมีการผูกข้อมือด้วยผ้าริบบิ้น หรือ เชือกสีต่างๆ เช่น สีขาว หรือ สีแดง ฯลฯ เพื่อแบ่งตามประเภท อาทิ จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดชลบุรี กรุงเทพมหานคร จังหวัดราชบุรี จังหวัดระยอง เป็นต้น โดยเสียเงินค่าจ้างให้กับนายหน้า และขบวนการนำพาส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลือจะไปจ่ายเมื่อถึงที่หมายปลายทางแล้ว โดยเสียค่าเดินทางรวมคนละไม่ต่ำกว่า 25,000-30,000 บาทต่อคน
แหล่งข่าวในพื้นที่ตั้งข้อสงสัยว่า การจับกุมแรงงานชาวเมียนมาในครั้งนี้ ทำไมถึงไม่รอจับให้ได้กลุ่มคนนำพา พร้อมนายหน้าที่ขับรถมารับ หรือ เกรงว่าจะต้องสูญเสียงบประมาณจำนวนมากในการดูแลเลี้ยงอาหารระหว่างถูกกักตัวดูอาการของโรคโควิด 19 และดำเนินคดี และเมื่อนำกลับไปผลักดันแล้ว ยืนยันได้หรือไม่ว่าแรงงานต่างด้าว 200 กว่ารายนี้ จะไม่หวนกลับเข้ามาในประเทศ ตามช่องทางธรรมชาติจุดอื่นๆอีก เมื่อเจ้าหน้าที่เผลอ
ขณะที่นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดโครงการเพิ่มศักยภาพ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และ ชรบ. เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในบทบทบาทและอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย พร้อมรับฟังปัญหาอุปสรรคเพื่อปรับปรุงพัฒนาการทำงานให้มีประสิทธิภาพ สำหรับผู้นำท้องที่เป็นกลไกสำคัญในการช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ จึงขอให้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ เรียนรู้ที่จะปฏิบัติตามกรอบระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด ไม่แสวงหาผลประโยชน์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำผิดกฎหมายโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะขบวนการลักลอบนำพาคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง