จังหวัดตรัง ได้ประกาศเรื่องปัญหาการจัดการขยะทั้งบนบกและในทะเลเป็นวาระจังหวัด โดยที่ประชาชนต่างก็พร้อมให้ความร่วมมือ  โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งที่มีชายหาดยาวรวมประมาณ 119 กม. จากทั้ง 5 อำเภอ และได้มีหลายชุมชนที่ทำมานานแล้ว  รวมทั้งชาวบ้านนาทะเล หมู่ที่ 1 ตำบลตะเสะ อำเภอหาดสำราญ ที่นำโดย นางปาริชาติ เพทาย อายุ 65 ปี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านนาทะเล  ซึ่งได้นำชาวบ้านในกลุ่มกว่า 10 คน ร่วมกันเก็บและกำจัดขยะที่มากับคลื่นลมและขึ้นมากองอยู่ริมชายหาดหน้าบ้านตนเอง
        โดยการจัดแบ่งพื้นที่ออกเป็นกลุ่มๆ ละ 5 คน รับผิดชอบชายหาดร่วมกันระยะทางยาว 80 เมตร รวมเป็นระยะทางยาวประมาณ 400 เมตร  เพื่อเก็บ คัดแยก และกำจัดด้วยวิธีง่ายๆ เช่น หากเป็นเศษโฟม เศษขวด ขยะพลาสติก หรือเศษอวน จะใช้วิธีฝังกลบริมชายหาด  ซึ่งมั่นใจแล้วว่าหากน้ำขึ้นจะไม่ถูกคลื่นซัดขยะกลับลงทะเล แต่ทรายจะช่วยฝังขยะให้แน่นมากกว่าเดิม  ส่วนขยะที่ขายได้ก็เก็บกลับไปขาย และหากเป็นเศษไม้สามารถนำไปทำฟืน หรือเศษอื่นๆ ที่สามารถเผาทิ้งได้ ก็ทำการเผาทิ้ง

        สำหรับชาวบ้านกลุ่มนี้ได้รวมตัวกันรับผิดชอบกำจัดขยะริมชายหาดสำราญ มานานประมาณ 2 ปีแล้ว  จนได้รับรางวัลชุมชนต้นแบบระดับชมเชยในการร่วมกันเก็บและกำจัดขยะที่มากับมรสุม หรือจากเครื่องมือทำประมง บริเวณชายหาดหน้าบ้านตนเอง จาก นายลือชัย  เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง  นอกจากนั้นมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดตรวจจับคนที่ลักลอบนำขยะมาทิ้งลงทะเลด้วย  ถือเป็นชุมชนต้นแบบที่ตระหนักและร่วมกันกำจัดขยะทะเลให้แก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่งในพื้นที่และอำเภออื่นๆ
        ป้าปุ๋ย หรือ นางปริชาติ เพทาย ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านนาทะเล กล่าวว่า  ตนเองและชาวบ้านได้ช่วยกันเก็บขยะริมทะเลมานานแล้ว แต่มาเริ่มทำกันอย่างจริงจังในปี 2561 ส่งผลให้ชายหาดสวยงามมาก  โดยจะมีการแบ่งให้สมาชิก 5 คน รับผิดชอบ 1 โซน ระยะทางยาวประมาณ 80 เมตร รวม 5 โซน 400 เมตร  ซึ่งจะเก็บขยะกันสัปดาห์ละ 2 วัน เพื่อนำบางส่วนไปฝัง แต่ถ้าเป็นไม้ จะนำมากองไว้เพื่อให้แห้ง แล้วนำเอาไปทำฟืน  และในบางครั้งอาจจะมีการเผาขยะทิ้งไปบ้าง แต่ก็ไม่มาก เนื่องจากเกรงควันไฟจะก่อให้เกิดมลพิษ