เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ตร.ไทยประสาน ตร.สากล ล่า "ฆาตกรโหดชาวอังกฤษ" ฆ่าเปลือยสาวศรีสะเกษยัดกระเป๋าแดง


27 พ.ค. 2565, 17:58



ตร.ไทยประสาน ตร.สากล ล่า "ฆาตกรโหดชาวอังกฤษ" ฆ่าเปลือยสาวศรีสะเกษยัดกระเป๋าแดง




ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า จากข่าวดังที่นานมากๆ คดีฆ่ายัดกระเป๋าแดง ทิ้งลงแม่น้ำแม่กลอง เมื่อปี 2557 เจ้าหน้าที่ก็ได้ แกะรอยคดีสะเทือนขวัญล่า “ฆาตกรโหดชาวอังกฤษ” ฆ่าเปลือยสาวไทยชาวศรีสะเกษยัดกระเป๋าแดงถ่วงแม่น้ำแม่กลอง ที่กาญจนบุรี จากคดีที่มืดมิด สุดท้ายออกหมายจับได้ด้วยหลักฐานจาก “ดีเอ็นเอ” เผยหลังก่อเหตุผู้ต้องหาเฝ้าอยู่รอดูสถานการณ์ในไทยนานถึง 23 วัน เมื่อรู้ว่าเจ้าหน้าที่พบศพของผู้ตายแล้วจึงเดินทางออกนอกประเทศทันทีทางด่านปาดังเบซาร์ เจ้าหน้าที่เร่งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และตำรวจสากลลากคอกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 พ.ย.57 ศูนย์วิทยุ 191 ภ.จว.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจาก นายจตุพล ส้มฉุน อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/1 หมู่ 1 ต.หินดาด อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรีว่า พบกระเป๋าเดินทางหรูสีแดงลอยอยู่กลางแม่น้ำแม่กลอง พื้นที่หมู่ 2 ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี จึงพายเรือไปดูแล้วใช้มีดกรีดกระเป๋าถึงกับตกตะลึงเมื่อปรากฏว่า ภายในมีศพของมนุษย์ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในท้องที่รับผิดชอบของ สภ.ท่าม่วง เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุ 191 จึงแจ้งให้เจ้าของท้องที่ไปตรวจสอบ พร้อมกับรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นทราบ

ต่อมา พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล พ.ต.อ.มนต์ชัย เพ็ญสูตร และ พ.ต.อ.จรินทร์ วัฒนไพรสาณฑ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี รวมทั้ง พ.ต.อ.ชูยศ ทองอยู่ ผกก.สภ.ท่าม่วง พ.ต.อ.วีระ วิจิตรหงษ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.ไวโรจน์ แน่นพิมาย สว.สส.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.อานุ ปิ่นชูทอง รอง ผกก.สส.สภ.ท่าม่วง พ.ต.ท.มนัส จำเรียง รอง ผกก.ป.สภ.ท่าวง พ.ต.ท.กาจภณ ปฐมัง สวป.สภ.ท่าม่วง พ.ต.ต.ชาญ คำอารีย์สกุล สว.สส.สภ.ท่าม่วง และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กสส.ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่าม่วง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.กาญจนบุรี และแพทย์เวร รพ.สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 ได้ลงพื้นที่ร่วมกันตรวจสอบ และชันสูตรพลิกศพ

เจ้าหน้าที่มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ประจำจังหวัดกาญจนบุรี ได้ช่วยกันแบกหามกระเป๋าแดงบรรจุศพขึ้นมาจากแม่น้ำอย่างทุลักทุเล และหลังจากเปิดกระเป๋าออกมาก็พบว่า เป็นศพของหญิงสาว สภาพเปลือยกาย ขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วบริเวณ

นอกจากศพของหญิงสาวคนดังกล่าว ยังพบก้อนหินขนาดใหญ่ 2 ก้อน ถุงพลาสติกบรรจุหินกรดที่ใช้สำหรับตกแต่งบ้าน จำนวน 1 ถุง กางเกงยีนส์ขาสั้นแบบวัยรุ่น 1 ตัว เสื้อชั้นในสีดำ 1 ตัว กางเกงในสีชมพู 1 ตัว ประเป๋าสตางค์เปล่า 1 ใบ รองเท้าส้นสูง 1 คู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน

รวมทั้งกระเป๋าเดินทางแบบมีล้อเลื่อน ยี่ห้อ POLOGY สีแดง กว้าง 50 เซนติเมตร ยาว 80 เซนติเมตร สูง 30 เซนติเมตร ที่ใช้ยัดศพ การชันสูตรพลิกศพเจ้าหน้าที่ไม่สามารถระบุได้ว่า หญิงสาวคนดังกล่าวเป็นใคร อายุเท่าไหร่ และถูกฆ่ามากจากที่ใด

หลักฐานที่พบคือเสื้อผ้าคาดการณ์ได้เพียงว่า ผู้ตายน่าจะมีอาชีพเป็นโคโยตี้เท่านั้น และหลักฐานชิ้นสำคัญที่พบอีกอย่างคือ การเจาะสะดือ หลังจากชันสูตรพลิกศพ เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างร่องรอยต่างๆ เช่น ตัดเล็บ รวมทั้งชิ้นส่วนสำคัญ พร้อมหลักฐานที่พบนำไปตรวจดีเอ็นเอ จากนั้นจึงนำศพส่งไปยังสถาบันนิติเวช เพื่อผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง สำหรับคดีดังกล่าวเป็นคดีที่สะเทือนขวัญ ผู้บังคับบัญชาระดับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

ได้ร่วมกันวางแผนทดสอบจัดหากระเป๋าเดินทางแบบมีล้อเลื่อน ยี่ห้อ POLOGY ฝาปิดสีแดง กว้าง 50 เซนติเมตร ยาว 80 เซนติเมตร สูง 30 เซนติเมตร บรรจุแพะที่เสียชีวิตแล้ว 1 ตัว พร้อมขาหมู 1 ขา ก้อนหิน 2 ก้อน และหินตกแต่งบริเวณบ้าน 1 ถุง น้ำหนักรวมกันประมาณ 50 กิโลกรัม ไปที่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จากนั้นโยนลงไปในแม่น้ำเพื่อจำลองเหตุการณ์ ทั้งหมดไม่เป็นผล เพราะหลังจากที่กระเป๋าจมน้ำได้เพียง 20 ชั่วโมงเศษ ก็ลอยขึ้นมาเหนือน้ำแล้ว

พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ยอมรับว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ค่อนข้างที่จะหนักใจในการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีมากพอสมควร เพราะที่ผ่านมา ยังไม่มีผู้ปกครอง หรือญาติคนใดโทร.แจ้งเบาะแสคนหายเพิ่มเข้ามาอีกเลย นอกจากหญิงสาวที่แต่งกายลักษณะคล้ายกันแจ้งเข้ามาก่อนหน้านั้น แต่เจ้าหน้าที่ได้พบตัวหญิงสาววัยรุ่นทั้ง 3 รายหมดแล้ว จึงตัดประเด็นการหายตัวของหญิงสาวทั้ง 3 รายออกไป จึงตั้งกำลังเจ้าหน้าที่ขึ้นมา 3 ชุด เพื่อออกติดตามหาตัวหญิงสาวตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี

วันที่ 10 พ.ย.57 ผลการผ่าพิสูจน์จากสถาบันนิติเวช พบว่า หญิงสาวที่เสียชีวิตมีอายุประมาณ 25 ปี สูงประมาณ 153 เซนติเมตร ทำศัลยกรรมเสริมจมูก และเจาะสะดือ ตับและปอดมีแอลกอฮอล์สูง แสดงว่า ก่อนเสียชีวิตหญิงสาวคนดังกล่าวได้ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เข้าไปจนมึนเมา

ส่วนสาเหตุเกิดจากการขาดอากาศหายใจ ก่อนที่คนร้ายจะนำศพยัดใส่กระเป๋ามาถ่วงน้ำ แต่เนื่องจากสภาพศพที่เน่าจึงไม่สามารถยืนยันได้ว่า หญิงคนดังกล่าวถูกบีบคอจนเสียชีวิตหรือไม่ และไม่ทราบว่า ผู้ตายถูกข่มขืนหรือไม่ เนื่องจากช่องคลอดไม่สามารถพิสูจน์ได้เช่นกันว่ามีเชื้ออสุจิ

วันที่ 12 พ.ย.57 พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เดินทางมาติดตามคดีด้วยตนเอง โดยเรียกเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายประชุมที่ห้องประชุมชั้น 2 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี โดยมี พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ประภากร ริ้วทอง ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.ชูยศ ทองอยู่ ผกก.สภ.ท่าม่วง

พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กสส.ภ.จว.กาญจนบุรี ชุดสืบสวน สภ.ท่าม่วง ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี และชุดสืบสวน ภ.7 ประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีนี้ โดยครั้งนี้ นายวันชัย โอสุคนธ์ทิพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้เข้าร่วมประชุมเป็นครั้งแรก บรรยากาศในการประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด การประชุมใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ

พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า คดีนี้หากเปรียบเทียบก็เหมือนกับการแข่งกีฬาที่ต้องมีแพ้ และชนะ หากรู้ตัวว่าหญิงสาวคนดังกล่าวเป็นใครผลคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจชนะ หากไม่ทราบว่าเป็นใครคือ แพ้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องสืบทราบให้ได้ว่าหญิงสาวคนดังกล่าวเป็นใครให้ได้ ซึ่งจะทำให้สามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้โดยง่าย จึงฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชน หรือพลเมืองดีทุกคนว่า หากสงสัยว่าเป็นญาติ หรือบุตรหลาน หรือคนรู้จัก ลักษณะการแต่งกายนุ่งกางเกงยีนส์ขาสั้นพับขาแบบวัยรุ่น เจาะสะดือติดห่วง เสริมจมูก ผิวขาวท้วม อายุประมาณ 25 ปี หายตัวไป ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบด้วย

พล.ต.ท.วีรพงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นการสังหารขณะนี้ยอมรับว่าเป็นไปได้ทุกประเด็น ทั้งประเด็นชู้สาว ประเด็นขัดแย้งเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด ส่วนแนวทางการสืบสวนเราได้ตั้งชุดสืบสวนขึ้นมาร่วมกัน 4 ชุด มีเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนภาค 7 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี 3 ชุด

นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเข้ามาช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง และกองพิสูจน์หลักฐาน ภาค 7 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทีมวิเคราะห์อาชญากรรมมาร่วมวิเคราะห์ด้วย นอกจากนี้ ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่กระจายกำลังกันออกค้นหาว่าผู้ตายนั้นเป็นใครในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดใกล้เคียงแล้ว ยังดำเนินการออกค้นหาบุคคลดังกล่าวในพื้นที่ กทม.เพิ่มเติมอีกด้วย

วันที่ 18 พ.ย.57 ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มกระจ่าง เมื่อเจ้าหน้าที่รู้ตัวแล้วว่าผู้เสียชีวิตนั้นเป็นใคร เมื่อ น.ส.วิสาขา มะโนชาติ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 178 หมู่ 3 ต.ไพร อ.ขุนหาญ จ.ศรีษะเกษ พร้อมด้วย นายเอก มณูชาติ อายุ 28 ปี สามี และนายสามารถ ติงสะ น้าชาย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ชูยศ ทองอยู่ ผกก.สภ.ท่าม่วง พ.ต.อ.พิพัฒน์ รุ่งสัมพันธ์ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เข้าให้ปากคำว่า ผู้ตายคือ น.ส.ลักษมี หรือปุ๊ก มะโนชาติ อายุ 31 ปี พี่สาว

พร้อมเปิดเผยด้วยความเศร้าโศกว่า ครอบครัวทราบว่าพี่สาวเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 พ.ย.57 รู้จากพี่สาวอีกหนึ่งคนที่โทรศัพท์ไปบอก จากนั้นจึงเดินทางไปดูศพที่โรงพยาบาลตำรวจ ที่จำได้แม่นยำคือ พี่สาวได้ทำเขี้ยวฝังเพชรทั้ง 2 ข้าง แต่เพชรที่ฝังที่เขี้ยวได้หลุดออก รวมทั้งการเจาะสะดือด้วย และก่อนที่พี่สาวจะหายตัวไปได้พักอาศัยอยู่ที่เขตพระโขนง

ส่วนเรื่องส่วนตัวของพี่สาวตนไม่ค่อยทราบมากนัก เพราะพี่สาวไม่ค่อยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ใครทราบ ครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกับพี่สาวเมื่อวันที่ 1 พ.ย.57 โดยพี่สาวบอกว่า วันที่ 12 พ.ย.57 จะโอนเงินไปให้แม่นำไปใช้หนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับ และหลายปีที่ผ่านมา พี่สาวเคยมีแฟนเป็นชาวต่างชาติแต่ได้เลิกกันไปนานแล้ว

ส่วนชาวต่างชาติก็กลับไปอยู่ต่างประเทศนานแล้ว ซึ่งครอบครัวไม่ได้สงสัยว่าใครเป็นคนก่อเหตุ แต่ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว การสูญเสียพี่สาวในครั้งนี้ทำให้ครอบครัวลำบากขึ้น เพราะพี่สาวถือว่าเป็นเสาหลักของบ้าน ซึ่งศพจะนำไปทำพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดต่อไป

นี่คือจุดเริ่มต้นในการออกค้นหาฆาตกรโหดรายนี้ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสบุคคลต้องสงสัยว่าจะเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชายชาวต่างชาติรูปร่างสูงใหญ่ หัวโล้น ที่ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้ขณะที่เดินเคียงคู่กันกับ น.ส.ลักษมี หรือปุ๊ก มะโนชาติ ก่อนที่ทั้งคู่จะหายตัวไป การสืบสวนสอบสวนเป็นไปอย่างเข้มข้น และต่อเนื่อง ในที่สุดก็ได้รับข่าวดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าขณะนี้ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้อนุมัติหมายจับคนร้ายรายนี้แล้ว

จนวันที่ 30 ม.ค.2558 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล รอง ผบก.ภ.จว. พ.ต.อ.จรินทร์ วัฒนไพรสาณฑ์ รอง ผบก.ภ.จว. พ.ต.อ.วีระ วิจิตรหงษ์ ผกก.สส.ภ.จว. พ.ต.อ.อนันต์สิทธิ์ พร้อมสันติชน ผกก.สภ.ท่าม่วง พ.ต.อ.พิพัฒน์ รุ่งสัมพันธ์ พงส.ผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.ท่าม่วง นำหมายจับของศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ มจ.62/2558 ลงวันที่ 28 ม.ค.2558 ให้ติดตามจับกุมตัว MR.LOOKER SHANE KENNETH อายุ 45 ปี สัญชาติอังกฤษ มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

จากคำแถลงแนวทางการสืบสวนระบุว่า น.ส.ลักษมี หรือปุ๊ก มะโนชาติ อายุ 31 ปี ทำงานอยู่ที่สถานบริการชื่อร้านเรนโบว์ 4 นานาพลาซ่า สุขุมวิท กทม. พักอาศัยอยู่ที่หอพักบุญแก้ว ซ.ปรีดีพนมยงค์ สุขุมวิท 71 พระโขนง กทม. เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปตรวจสอบห้องพัก และที่ทำงานของผู้เสียชีวิต จนกระทั่งพบกล้องวงจรปิดในสถานที่เกี่ยวข้อง ทราบว่า วันที่ 1 พ.ย.2557 เวลาประมาณ 23.53 น. ผู้ตายได้เดินออกจากสถานบริการเรนโบว์ไปกับชายชาวยุโรปรูปร่างสูงใหญ่ ศีรษะล้าน

และจากมือฆ่ายัดกระเป๋าแดงทิ้งลงในแม่กลองนี้ ศาลไทยจะตัอสินในต้นเดือน มิ.ย. 65 ที่จะถึงนี้ หลังจากไทยได้ประสานขอตัวฝรั่งดวงตาน้ำข้าวมือฆ่ายัดกระเป๋าแดง มารับโทษผลจะออกมาเช่นไรต้องติดตามต่อไป.....และจากการสืบสวนทราบว่า ชาวชาวยุโรปคนดังกล่าว ชื่อ MR.LOOKER SHANE KE 



 







Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.