"ลุงวัย51ปี" ปรับเปลี่ยนสวนยางพารา หันมาปลูกทุเรียนหมอนทอง บนพื้นที่ 14 ไร่ จนประสบผลสำเร็จ ลบความสบประมาท
30 พ.ค. 2565, 13:08
ที่บ้านไทยนิยมพัฒนา หมู่ 17 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เป็นหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีเทือกเขาพนมดงรักเป็นเขตแนวชายแดนทางธรรมชาติ มีป่าไม้ แหล่งน้ำ และพื้นดินที่อุดมสมบูรณ์ ต่อการปลูกพืชเศรษฐกิจ ทั้งอ้อย ยางพารา มันสำปะหลัง และที่กำลังได้รับความสนใจของเกษตรกร ในพื้นที่ตำบลบักได คือการปรับเปลี่ยน การปลูกยางพารา มาเป็นการปลูกทุเรียน โดยเฉพาะทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ซึ่งเกษตรกร ได้มีการทดลองปลูก มานานกว่า 5 ปี กำลังประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม ออกดอกให้ผลผลิต และสามารถเก็บผลผลิตได้ ตั้งแต่เดือนปลายเดือนพฤษภาคม ไปจนถึง ปลายเดือนมิถุนายน 2565 นี้
โดยเฉพาะที่สวนทุเรียน ของนายเลือย รักสกุล อายุ 51 ปี เกษตรกรชาวสวน บ้านไทยนิยมพัฒนา หมู่ 17 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งได้มีการปรับเปลี่ยน จากการปลูกยางพารา มาเป็นการปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง เป็นเจ้าแรกของพื้นที่ตำบลบักได เนื้อที่ปลูก 14 ไร่ นายเลือย บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองปลูกทุเรียนหมอนทอง ต้นแรก อายุ ได้ 3 ปี ทุเรียนก็ออกผลผลิต ต้นแรก ได้สามลูก ตื่นเต้นมาก พอถึงเวลา ตัด ก็ตัดให้นายอำเภอได้ทดลองทาน 1 ลูก ตนเอง 1 ลูก และเพื่อนบ้าน 1 ลูก พอทานกันได้ลิ้มลองรสชาติแล้ว ก็ลงความเห็นว่ารสชาติเหมือนกับที่ชื้อทุเรียนหมอนทองกิน จากภาคตะวันออก อร่อยหอมหวาน แม้ว่าด้านนอกเหมือนจะแข็งแต่เนื้อนุ่มใน พอได้ชิมลูกแรก แล้วก็ดีใจ จุดประกายความหวังว่า พื้นที่ตรงนี้ ต้องปลูกทุเรียนได้แน่นอน จึงได้เริ่มขยายพื้นที่ปลูก จาก 6 ไร่ เพิ่มเป็น 14 ไร่
ตนเองต้องต่อสู้ลบคำสบประมาท จากเพื่อนบ้าน ว่า ปลูกไปเถอะไม่นานต้นก็จะเหี่ยวแห้งตาย หรือไม่ก็จะกลายเป็นขนุน ซึ่งตนเองก็ดูแลบำรุง ต้นทุเรียน มาอย่างต่อเนื่องไม่เห็นจะเป็นอย่างที่ชาวบ้านเขาสบประมาท ไว้ พอเข้าปีที่ 4 ทุเรียน เริ่มให้ผลผลิต มากขึ้นแต่ก็ไม่ให้ลูกติดมาก กลัวต้นจะโทรมเร็ว เอาไว้ต้นละ 4 ลูก และตั้งชื่อ ต้นทุเรียน ว่า สาวน้อยลูก 4 เพราะอายุต้นน้อยปี เอาไว้แค่ต้นละ 4 ลูก แต่พอเอาไว้น้อยลูก กลับปรากฏว่า ลูกทุเรียน มีน้ำหนักมากลูกใหญ่มาก ตกลูละ 6-7 กิโลกรัม พอมาปีนี้ เป็นปีที่ 5 ต้นทุเรียน มาอายุมากขึ้น จึงปล่อยให้มีลูกดก ได้ บางต้น กว่า 20 ลูกก็มี ผลทุเรียน จะอยู่สูงจากพื้นดินที่ปลูก ตั้งแต่ 50 เชนติเมตร สูงสุด 3 เมตร บางต้นจะดกมาก พอดกมาก ลูกทุเรียนก็ดันหรือกดกันเองก็จะหลุดออกไป สำหรับปีนี้ มีผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ด้านทุเรียน ประมาณผลิตไว้แล้วว่า ทุเรียนหมอนทองในสวน จำนวน 14 ไร่ ทุเรียนให้ผลผลิต จำนวน 90 ต้น จำนวน 800 ลูก ตกไซส์จำนวน 90 ลูก ประมาณรายได้ ที่สวนในปีนี้ คาดว่า 500,000 บาท ซึ่งทุเรียนจะสุกเก็บผลผลิตได้ ช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ ดีใจที่ทุเรียนหมอนทอง ที่ให้ผลผลิตที่ดี ลบคำสบประมาท ลงไปได้
ขณะที่สวนทุเรียนพันธุ์หมอนทอง และเงาะ จากสวนอื่นๆในพื้นที่ ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เริ่มเก็บผลผลิตและจำหน่ายได้แล้ว มีประชาชน ทั้งในพื้นที่ และต่างอำเภอ แม้แต่จากต่างจังหวัด ให้ความสนใจ เดินทางไปเที่ยวชม พร้อมชิมรสชาติเงาะ ทุกเรียน ถึงสวน พากันชื้อกลับ ทุเรียนหมอนทอง กิโลกรัมละ 180 บาท ทุกสวน เงาะ 3 กิโลกรัม 100 บาท ทำให้ชาวสวนทุเรียน ยิ้มแบบมีกำลังใจ ที่ประสบผลสำเร็จในการปลูกทุเรียนและเงาะ สำหรับประชาชนที่เดินทางมาเที่ยวชมสวนทุเรียน ที่บ้านไทยนิยมพัฒนาแล้ว ยังสามารถขึ้นไปเที่ยวชม ปราสาทตาควาย เป็นปราสาทหินศิลาแลง อยู่ใกล้กับหมู่บ้านไทยนิยมพัฒนา ตามแนวเทือกเขาพนมดงรัก ได้อีกด้วย หากสนใจเที่ยวชมสวนหรือติอต่อซื้อทุเรียนจากสวน