โดยนายบุญหลง ศรีงาม หนึ่งในคณะกรรมการวัดพระธาตุจอมทอง ระบุว่า ในอดีตวัดพระธาตุจอมทองดังกล่าว ถูกปล่อยให้รกร้างโดยที่ไม่มีใครมาสนใจ พระพี่มาจำวัดและดูแลวัด ก็ผ่านมาหลายรูป แต่ก็ไม่สามารถที่จะพัฒนาวัดพระธาตุจอมทองได้ แต่ต่อมาเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้มีพระสงฆ์ คือ ครูบาอ๊อดได้เข้ามาจำวัดและมีการพัฒนาวัดพระธาตุจอมทอง โดยได้รับการมอบหมายจากหลวงพ่อใหญ่หรือพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ เจ้าอาวาสรูปก่อนที่มรณะภาพไป ให้มีการพัฒนาวัดมาอย่างต่อเนื่อง จนวัดพระธาตุจอมทองมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ใช้งบประมาณจากวัดศรีโคมคำ แต่อย่างใด ซึ่งงบประมาณดังกล่าวนั้นได้จากแรงศรัทธาและชาวบ้านช่วยกันพัฒนาวัดพระธาตุจอมทอง จนปัจจุบันมีความสวยสดงดงามและเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่สำคัญของจังหวัดพะเยาอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งหลังจากที่เจ้าเอาวาสรูปใหม่ที่ได้รับการแต่งตั้งเมื่อ 2-3 เดือน ที่ผ่านมาก็ได้เข้าทำการรวบอำนาจในการบริหารวัดพระธาตุจอมทอง โดยส่งพระสงฆ์เป็นตัวแทนเข้ามาควบคุมและเก็บเงินจากตู้บริจาคของวัดพระธาตุจอมทอง ไปจนหมด และไม่ส่งกลับคืนมาให้ทางวัดพระธาตุจอมทอง ในการบริหารงานเลย จนทำให้คนงานที่อยู่ช่วยในการพัฒนาปรับปรุง วัดพระธาตุจอมทอง ไม่ได้รับเงินค่าตอบแทนมาเป็นระยะเวลากว่า 2 เดือน จึงทำให้ได้รับความเดือดร้อนโดยเรียกร้องให้เจ้าอาวาสวัดศรีโคมคำ ดังกล่าว หยุดรวบอำนาจและหยุดคุกคามวัดพระธาตุจอมทอง โดยให้คณะศรัทธาวัดพระธาตุจอมทองรวมทั้งกรรมการได้มีการบริหารวัดด้วยตัวเอง เพราะที่ผ่านมาทางวัดก็ได้มีการบริหารงานมาจนวัดสามารถพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด แต่มาถูกรวบอำนาจซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จึงอยากเรียกร้องให้มีการทบทวนในการกระทำดังกล่าว

โดยในวันนี้กลุ่มคณะศรัทธาและชาวบ้าน วัดพระธาตุจอมทอง ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อเจ้าคณะจังหวัดซึ่งมีตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีโคมคำ แต่พบว่าทางสำนักงานวัดศรีโคมคำ ได้มีการปฏิเสธที่จะรับหนังสือข้อเรียกร้องดังกล่าว จึงทำให้กลุ่มชาวบ้านรวมตัวกันเข้าทำการแจ้งความดำเนินคดี ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองพะเยา ในข้อหาละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ เนื่องจากไม่ยอมรับหนังสือข้อเรียกร้องดังกล่าว รวมทั้งจะเข้าเรียกร้องต่อสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดรวมทั้งสำนักงานพระพุทธศาสนาประจำจังหวัดต่อไป