วันนี้ ( 1 มิ.ย.65 ) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยนายกรัฐมนตรีชี้แจง ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญกับการศึกษา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งระบุไว้ในหัวข้อหลักของยุทธศาสตร์ชาติ 1 ใน 6 ข้อ ที่สิ่งสำคัญคือการทำอยางไรให้มีคุณภาพดีมากยิ่งขึ้น โดยต้องเริ่มจากการพัฒนาครู โรงเรียน รวมถึงงบประมาณในการดูแลเด็ก การมีโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้มาตรฐานการเรียนการสอนสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่นักเรียน อย่างไรก็ตามต้องมีการสำรวจโรงเรียนที่มีความพร้อมเพื่อที่จะปรับปรุงพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะเด็ก เรียนให้ตรงกับความต้องการ และใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ ในส่วนของงบประมาณกระทรวงศึกษาธิการส่วนหนึ่งที่งบประมาณลดลง เนื่องจากจำนวนเด็กนักเรียนลดลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนที่เข้าสู่ระบบการศึกษา มีเด็กเกิดใหม่น้อยลง จึงต้องจัดสรรให้ครอบคลุม ขณะที่การแต่งตั้งในพื้นที่สำหรับครูยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณา และในการอภิปรายครั้งนี้มีการจดบันทึก พร้อมชี้แจงในทุกประเด็น ในบางเรื่องจะให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ชี้แจงในแต่ละประเด็น ถึงเหตุผลและความจำเป็นในเรื่องของการจัดสรรงบประมาณในปีนี้ ยืนยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนในส่วนของงบกลาง ถ้ามีเพียงพอ

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเรื่องการปราบปรามการทุจริต ที่มีการกล่าวโทษว่ามีทุจริตเพิ่มมากขึ้น แสดงว่าแก้ไขปัญหาไม่ได้นั้น ยืนยันว่านายกฯ ไม่เคยละเลยปัญหาและไม่ก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม วันนี้ สถิติของการปราบปรามการทุจริตมีสูงขึ้น ในเรื่องของการแก้ปัญหาการทุจริตโดยเฉพาะเรื่องการหลอกลวงผ่านช่องทางออนไลน์ ได้สั่งการให้ดำเนินคดีทุกเรื่อง มีการประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านในการเข้าไปจับกุมผู้ที่กระทำการหลอกลวง ซึ่งต้องช่วยกันทำความเข้าใจกับประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อ รัฐบาลได้พยายามจะชี้แจงในช่องทางของรัฐบาลมาโดยตลอด ฝากให้ใช้โซเชียลมีเดียให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในเรื่องของการทุจริต ยาเสพติด สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษได้เลย ไม่ต้องกลัวใคร นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ดูแล ปกปิด และจะตรวจสอบให้ ยืนยันจะรับผิดชอบทุกเรื่อง โดยไม่ปกป้องใครทั้งสิ้น ทั้งนี้ รัฐบาลมีนโยบายปราบปรามยาเสพติด ปราบปรามผู้อยู่เบื้องหลัง นายทุน ผู้สนับสนุน ยึดทรัพย์ต่าง ๆ มีผลงานมากมาย สิ่งสำคัญที่สุดคือทุกคนต้องช่วยกัน ต้องเตือนเด็ก ๆ บอกเด็ก ๆ ทำให้คนของเราไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่ไปติดยา ถ้าใช้การปราบปรามอย่างเดียวอาจจะช้า ไม่ได้ผลเร็วมากนัก และต้องสร้างความเข้มแข็งในชุมชน ไม่อย่างนั้นภาระจะมากขึ้นเรื่อย ๆ วันนี้เจ้าหน้าที่ภาครัฐทำงานกันมากพอสมควร บางอย่างที่เกินหน้าที่ก็ต้องไปช่วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงโควิด -19 ทุกกระทรวง ทุกหน่วยงาน ทหาร ตำรวจ ลงไปช่วยกันดูแล ตรวจสอบ ให้คำแนะนำ ช่วยกันรักษาพยาบาล ตั้งโรงพยาบาลสนาม จนทำให้สถานการณ์มาถึงวันนี้ 1 มิ.ย. 65 เป็นการเปิดประเทศค่อนข้างเกือบจะเต็มรูปแบบ