เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



นายกฯ แจงการจัดงบฯ ตำรวจ-ทหาร งบฯ ด้านความมั่นคง เพื่อความปลอดภัยของประเทศ


2 มิ.ย. 2565, 16:46



นายกฯ แจงการจัดงบฯ ตำรวจ-ทหาร งบฯ ด้านความมั่นคง เพื่อความปลอดภัยของประเทศ




วันนี้ ( 2 มิ.ย.65 ) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยนายกรัฐมนตรีได้รับฟังและติดตามคำอภิปรายมาตลอด ขอชี้แจงเรื่องแรก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่กล่าวว่างานสอบสวน ตำรวจไม่อยากทำงาน เพราะงบประมาณไม่เพียงพอ และไม่มีความก้าวหน้าในชีวิตราชการ นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงว่า ในปัจจุบันพนักงานสอบสวนได้รับเงินค่าตอบแทนวิชาชีพเป็นเงินประจำตำแหน่ง ตั้งแต่ระดับรองสารวัตร จนถึงระดับรองผู้บังคับการตำรวจแห่งชาติ ได้จัดสรรเงินค่าตอบแทนสำนวนสอบสวน รวมเป็นงบประมาณเพิ่มขึ้น 400 ล้านบาทเศษ ซึ่งเป็นค่าทำสำนวนการสอบสวน ค่าตอบแทนพยาน ค่าส่งหมายเรียก ค่าชันสูตรพลิกศพ ค่าตอบแทนนักสังคมสงเคราะห์ ค่าคุ้มครองพยาน รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการทำสำนวนคดี เช่น ซื้อกระดาษ วัสดุ คอมพิวเตอร์ ค่าเดินทางไปราชการ น้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น และในห้วงใกล้สิ้นปีงบประมาณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดสรรเงิน เพิ่มเติมอีก 50-150 ล้าน รวมเป็นเงินทั้งสินเกือบ 600 ล้านบาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน 



ส่วนความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ราชการ ปัจจุบันพนักงานสอบสวนถือเป็นสายงานสำคัญ กตร. ได้แก้ไขให้การเข้าดำรงตำแหน่ง หัวหน้าสถานีตำรวจในทุกระดับ ข้าราชการตำรวจต้องมีประสบการณ์ด้านการดำรงตำแหน่งพนักงานสอบสวนมาก่อน ทั้งในระดับรองสารวัตร สารวัตร รองผู้บังคับการด้านสอบสวน ซึ่งทำให้ตำรวจทุกนายต้องหันมารับตำแหน่งพนักงานสอบสวน มิฉะนั้นจะไม่สามารถเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าสถานีตำรวจได้ นอกจากนี้ กำลังบรรจุพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมอีกรวม 1,700 นาย ทำให้ปัจจุบันเพิ่มขึ้นทั้งสิ้น 13,000 นาย อีกทั้งจะได้บรรจุผู้ช่วยพนักงานสอบสวนชั้นประทวน 3,500 นาย ช่วยเหลือพนักงานสอบสวนในการปฏิบัติหน้าที่ และระยะต่อไปจะเพิ่ม จำนวนผู้ช่วยพนักงานสอบสวนให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น 3-4 นาย/พนักงานสอบสวน 1 นาย เพื่อแบ่งเบาภาระพนักงานสอบสวนที่ทำหน้าที่อย่างหนักจากคดีที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบันให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
 
กรณีตำรวจตระเวนชายแดน ชี้แจงว่าภารกิจหลักคือการลาดตระเวนในพื้นที่ชายแดนทั่วประเทศเพื่อเฝ้าตรวจป้องกันชายแดนร่วมกับกำลังทหาร เพื่อไม่ให้มีการรุกล้ำอธิปไตยตามแนวชายแดน รักษาประโยชน์ของชาติ ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิตและช่วยเหลือประชาชนตามแนวชายแดน โดยคิดเป็นระยะทางตามแนวชายแดนทั่วประเทศ จำนวน 5,656 กิโลเมตร ในส่วนของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ปัจจุบันมีจำนวนรวม 222 โรงเรียน ซึ่งมีโรงเรียนที่ได้มอบโอนให้กับกระทรวงศึกษาธิการไปแล้ว จำนวน 490 โรงเรียน โดยการจัดการเรียนการสอนในปัจจุบันได้ดำเนินการตามมาตรฐานของกระทรวงศึกษาธิการ และยังคงให้บริการทางการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่ทุรกันดารและห่างไกลเส้นทางคมนาคม ทั้งนี้ โรงเรียนในสังกัดของกระทรวงศึกษาธิการหลายแห่งมีจำนวนนักเรียนน้อย ไม่สามารถเปิดการเรียนการสอนได้ ตำรวจตระเวนชานแดนจึงจำเป็นที่ต้องเข้าไปจัดตั้งโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน หรือ ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อเปิดทำการสอนไปก่อน จนกว่าจะมีความพร้อมเพียงพอก็ได้มอบโอนให้หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง เช่น กระทรวงศึกษาธิการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นอกจากนี้ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนยังให้บริการทางการแพทย์เบื้องต้นให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชนในถิ่นทุรกันดาร ในเขตบริการโรงเรียนและห้องพยาบาลของโรงเรียน ซึ่งจนถึงปัจจุบันได้มีโรงเรียนดังกล่าวสามารถยกระดับขึ้นเป็น สุขศาลาพระราชทาน จำนวน 22 แห่ง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชน ดังนั้น ตำรวจตระเวนชายแดนยังคงเป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนต่อไป

นอกจากนี้ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนยังมีภารกิจในการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงชายแดน การปราบปรามอาชญากรรม การพัฒนาช่วยเหลือประชาชน ซึ่งครอบคลุม 31 จังหวัดชายแดน คิดเป็นพื้นที่ 5661 ตารางกิโลเมตร วงเงินตามกรอบวงบประมาณ 3000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในกรอบงบประมาณ จึงขอให้คิดถึงหัวอกคนทำงานที่อยู่ตามแนวชายแดนบ้าง ซึ่งต่างการมีครอบครัวมีชีวิตจิตใจ


เรื่องที่สาม เหตุใดโครงการปฏิรูประบบงานตำรวจจึงมีงบประมาณเกี่ยวข้องกับสิ่งก่อสร้างจำนวนมาก นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า โครงการปฏิรูประบบงานตำรวจนั้น เกี่ยวกับกิจกรรมการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ด้านสวัสดิการที่พักอาศัยก็เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูประบบงานตำรวจ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง โครงการนี้เป็นโครงการจำนวน 3,781 ล้านบาท ซึ่งเกี่ยวกับสิ่งก่อสร้าง 2,668 ล้านบาท คิดเป็น 70 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเป็นการจัดสวัสดิการในด้านที่พักอาศัยให้แก่ราชการตำรวจชั้นผู้น้อยให้เป็นไปอย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพสร้างขวัญกำลังใจ โดยคำนึงถึงรูปแบบของที่พักอาศัยขนาดและทำเลที่ตั้งให้เหมาะสม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตตำรวจให้มีมีขวัญและกำลังใจ มีความสุขในการปฏิบัติงาน ปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการปฏิบัติงาน
 
สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีภารกิจด้านการป้องกัน ปราบปรามอาชญากรรม รักษาความสงบเรียบร้อยภายในพื้นที่ รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน จึงต้องมีที่พักที่อยู่อาศัย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือทหาร จำเป็นจะต้องสามารถระดมกำลังเจ้าหน้าที่ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่และภารกิจต่าง ๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือทหารกจึงมีความจำเป็นจะต้องมีสถานที่พักที่อยู่ใกล้กับสถานที่ทำงาน เพื่อให้สามารถเรียกระดมกำลังไปได้ทันที ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ ของตำรวจแห่งชาติยังมีอาคารที่พักอาศัยไม่เพียงพอกับจำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำหน้าที่ในปัจจุบัน โดยมีความต้องการที่พักอาศัยทั้งสิ้นถึง 70% ของกำลังพล แต่ปัจจุบันจัดได้เพียง 50% ยังขาดแคลนอยู่ถึง 20% คิดเป็นประมาณ 4 หมื่นยูนิต ทั้งนี้ จะค่อยๆ ดำเนินการไป ดังนั้น เรื่องความมั่นคงเป็นสิ่งสำคัญ ที่อาจจะลืมไปว่าทุกวันนี้ที่บ้านเมืองทั้งชายแดน และความสงบสุขภายในประเทศ ต้องใช้กำลังคนเหล่านี้เข้ามาทำงานร่วมกับฝ่ายรวมกับฝ่ายพลเรือนทั้งสิ้น เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างพลเรือน ตำรวจ และทหาร ซึ่งมีการทำงานร่วมกันในหลายๆ ภารกิจ ซึ่งก็ได้กำหนดไว้ตามรัฐธรรมนูญที่ให้ทหารและตำรวจต้องร่วมพัฒนาประเทศ บรรเทาภัยพิบัติ ปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนไปด้วย พร้อมกับทำหน้าที่ในการป้องกันประเทศ และการปราบปรามอาชญากรรม






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.