"ทูตเมียนมา" ห้ามให้แรงงานโรงงานไวต้าเข้าไปในกรุงเทพฯ สุดท้ายเรื่องไม่จบ ตั้งขบวนรถบัสบุกกระทรวงแรงงาน
16 ก.ย. 2562, 08:24
วันนี้ (14 ก.ย.62) เวลา 10.26 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้โพสต์เฟสบุ๊กว่า “ประกาศ !! วันจันทร์ที่ 16 ก.ย. 2562 ชมรมฯ จะนำรถบัสจำนวน 10 คัน ไปจอดรับแรงงานของบริษัทไวต้าและบริษัทในเครือที่ไม่ได้ค่าจ้างและถูกยักยอกเงินสหกรณ์ ที่หน้าโรงงานท่ามะกา จ.กาญจนบุรี
เมื่อในพื้นที่ไร้ความยุติธรรม จึงต้องนำทุกคนเข้ากรุงเทพมาร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ที่ชมรมได้นัดหมายไว้แล้ว ขอประกาศให้แรงงานทุกคนรวมพลังกันสู้ เพื่อบังคับใช้กฏหมายกับนายจ้างให้จ่ายเงินค่าจ้างที่ค้าง
ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม” นอกจากข้อความดังกล่าวแล้ว ยังนำภาพรถบัสโดยสารมาประกอบด้วย และล่าสุดวันนี้ 15 ก.ย. 62 ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้นำคลิปเสียงของผู้หญิงที่เป็นคนไทยขณะพูดคุยกับแรงงานชาวเมียนมา ความยาวประมาณ 8 นาที มาโพสต์ลงในเฟสบุ๊กอีกครั้ง และระบุว่า “คลิปเสียงผู้จัดการโรงงานเกลี้ยกล่อมแรงงานไม่ให้มากรุงเทพ โดยอ้างเหตุผลสารพัด ตัวเองมีเงินเดือนกินสบาย ๆ แต่แรงงานปล่อยให้อดอยาก เวรกรรมจริง ๆ”
ก่อนหน้านี้ เพจ ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โพสต์เฟสบุ๊กระบุว่า “วันอาทิตย์ที่ 15 ก.ย. 2562 เวลา 20.00 น. ติดตาม Facebook live เปิดปม แรงงานไม่ใช่ทาสนายทุน และเปิดปม อดีตเจ้าอาวาสวัดที่ข่มขืนเด็กอายุ 14 ต่อเนื่องถึง 18 ปีจนตั้งท้อง 5 เดือน ทั้งหมดล้วนเป็นความจริงที่จัญไรในกระบวนการยุติธรรม ขอพื้นที่ตรงนี้นิดนึงครับ ไม่ไหวแล้ว
หยุดเสียทีเพจเอฟซีทนายคนดังที่มาด่าโจมตีชมรมทุกเรื่อง กล้ามาเจอตัวเป็น ๆ โดยไม่ต้องใช้อวตารมั้ย ถ้าคนจริงก็มาเลย ไม่ใช่ทำตัวเป็นอีแอบหน้าตัวเมีย อย่างเคสล่าสุด เคสแรงงานที่ถูกค้างค่าแรง จ.กาญจนบุรี พวกที่เห่าหอนเคยรู้ความจริงไหมว่ามี 5 บริษัท ไม่ใช่มีบริษัทเดียวที่พวกคุณเอามาลง ยอดคนงานวันที่ไปสภ.ท่ามะกา มีแรงงานพม่า 379 คน คนไทย 97 คน รวมทั้งสิ้น 476 คน ยอดค้างจ่ายค่าแรงเกือบ 20 ล้านบาท ชมรมฯ อยากถามเหมือนกันว่า เรื่องนี้ใช่เรื่องของชมรมหรือไม่ ?
ที่ชมรมต้องมาเสือกช่วยแรงงานในครั้งนี้ เพราะมีแรงงานจำนวนมากเดือดร้อน โดยในวันจันทร์นี้ ชมรมต้องจ่ายค่ารถมากกว่า 5 หมื่นบาท คำถามที่ตามมาก็คือ ทำไมต้องจ่าย ? ก็เพราะความยุติธรรมในพื้นที่มันไม่มี คดีแรงงานค้างอยู่ สภ.ท่ามะกา 4 คดียังถูกดองเอาไว้ แรงงานเถื่อนมีไหม ลองไปถามเจ้าหน้าที่วันดังกล่าวดูว่ามีไหม ก่อนที่จะเอาแต่ด่าชมรมเพื่อดิสเครดิตเอาใจทนายคนดัง เปิดหูเปิดตาให้มันกว้างหน่อย พรุ่งนี้มาฟังตอน 20.00 น. แล้วจะรู้ว่าเรื่องจริงคืออะไร แล้วพบกันครับ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นวานนี้ ทางเจ้าหน้าที่สถานทูตเมียนมา ได้เดินทางไปบริษัท ไวต้าฟู้ดแฟคเตอรี่ (1989) จำกัด, บริษัท แวนด้าพรีเสิร์ฟฟู้ด จำกัด, บริษัท แวนด้าโฟรเซ่น จำกัด และบริษัท แวนด้า จำกัด ตั้งอยู่หมู่ที่ 7 ตำบลแสนตอ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี เดินทางไปตรวจสอบกรณีปัญหาแรงงานชาวเมียนมา กรณีแรงงานเดินทางไปเรียกร้องค่าแรงงานที่ถูกทางนายจ้างไม่ยอมจ่าย มาเป็นเวลา 3 เดือน จนได้รับความเดือดร้อน แล้วรวมตัวพากันไปเพื่อเข้าแจ้งความกับนายจ้าง
สำหรับโรงงานไวต้าฟู้ด ได้มีนายจรวย กิตติวัฒน์ไพศาล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไวต้าฟู้ด จำกัด ให้การต้อนรับ และได้ชี้แจงแผนการจ่ายค่าจ้างให้กับแรงงาน แก่คณะทูตได้รับทราบโดยแจ้งว่าจะมีการจ่ายเป็น จำนวน 5 งวด ดังนี้ 1.งวดที่ 1 จะจ่ายในวันนี้ 12 กันยายน 2562 ซึ่งเป็นงวดระหว่างวันที่ 1-15 มิถุนายน 2562, 2.งวดที่ 2 จะจ่ายในวันที่ 20 กันยายน 2562, 3.งวดที่ 3 จะจ่ายในวันที่ 27 กันยายน 2562, 4.งวดที่ 4 จะจ่ายในวันที่ 4 ตุลาคม 2562 และ 5.งวดที่ 5 จะจ่ายในวันที่ 11 ตุลาคม 2562 ซึ่งหากผู้ประกอบการไม่จ่ายค่าจ้างตามกำหนดดังกล่าว ทางสถานีตำรวจภูธรท่ามะกา จะดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าทางแรงงานทั้งหมดจะมีการเดินทางเข้าไปในกรุงเทพฯ นั้น ทางเจ้าหน้าที่ทูตเมียนมา ได้ทำการสอบถามแล้วไม่พบว่าจะมีการเดินทางเข้าไป และทางสถานทูตเมียนมา ก็ไม่ต้องการให้เกิดแรงงานชาวเมียนมา เดินทางเข้าไปในกรุงเทพฯ เช่นกัน พร้อมกำชับแก่ตัวแทนที่ดูแลแรงงานขออย่าให้เกิดเรื่องดังกล่าวด้วย ก่อนคณะทั้งหมดจะเดินทางกลับออกจากโรงงานไป และในเช้าพรุ่งนี้ทางนาย อัจฉริยะ ก็จะเดินทางไปพร้อมรถบัส จำนวน 10 คัน มารับแรงงานเพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ตามที่นายอัจฉริยะ ได้โฟสต์ ส่วนแรงงานจะไปหรือไม่จะรายงานให้ทราบต่อไป
และในเรื่องนี้ นายธนากร สว่างแก้ว ปลัดอำเภอท่ามะกา (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ) รักษาราชการแทนนาอำเภอท่ามะกา ได้เฝ้าติดตามและสั่งการณ์ให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานปกครอง นำ อส. แต่งกายชุดพรางทะเลทราย เข้าไปเฝ้าติดตามรักษาความสงบเรียบร้อย บริเวณพื้นที่โรงงานไวต้าฟู้ด กรณีหากมีการเคลื่อนนำแรงงานเพื่อเข้าไปในกรุงเทพฯ ร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ อย่างใกล้ชิด