นายกฯ สนับสนุนการสร้างสมดุลชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน กำชับทุกฝ่าย ดูแลผลกระทบปชช. ต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
7 มิ.ย. 2565, 10:24
วันนี้(7 มิ.ย. 65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมให้ความสำคัญผลักดันการรณรงค์ลดผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามแนวทางจากการประชุม COP26 พร้อมกำชับกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อปกป้องดูแลสุขภาพของคนไทย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเห็นความสำคัญต่อสุขภาพประชาชน และการพัฒนาเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมเสมอมา โดยได้กำหนดเป็นนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินแนวทางการทำงาน กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดโครงการรณรงค์ "มุ่งสร้าง สุขภาพดี สมดุลชีวิต สิ่งแวดล้อมยั่งยืน" เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก 2565 (วันที่ 5 มิถุนายน) ภายใต้หลักการ Only One Earth : โลกหนึ่งเดียวกับสมดุลชีวิตที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นการต่อยอดจากแนวทางจากการประชุมความร่วมมือของนายกรัฐมนตรีระหว่างไทยกับนานาชาติในการประชุม "COP26 World Leaders Summit" และเพื่อแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งไทยเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสูงสุดในโลก
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีมุ่งหวังให้ทุกภาคส่วนตระหนักรู้ เฝ้าระวัง ป้องกัน ดูแลสุขภาพ พร้อมใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมุ่งมั่นสร้างสมดุลชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนภายใต้แนวคิด "Only One Earth : โลกหนึ่งเดียว กับสมดุลชีวิตที่ยั่งยืน" ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ได้จัดทำโครงการประชาสัมพันธ์ใน 3 ด้าน เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ เพื่อเข้าใจในองค์ความรู้ การรักษาสุขภาพ และแนวทางการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ประกอบไปด้วย 1) การจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมในโรงพยาบาล และนโยบายการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ 2) การป้องกัน เฝ้าระวัง ผลกระทบ PM 2.5 เนื่องจากเป็นปัญหาที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญ และ 3) การร่วมมือดูแลสิ่งแวดล้อม ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันลดการสร้างขยะและการเผาไหม้ เลี่ยงการใช้ถุงพลาสติก หยุดการเผาพื้นที่เพื่อการเกษตรและหันมาปลูกต้นไม้เพื่อช่วยลดก๊าซเรือนกระจก
"นายกรัฐมนตรีมุ่งมั่นที่จะยกระดับการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ซึ่งเป็นประเด็นที่มีผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อมของประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้ร่วมมือกัน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชน พร้อมทั้งเฝ้าระวัง ป้องกัน ดูแล สร้างสมดุลชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน เพื่อลูกหลาน และเพื่อให้เป็นไปจามเจตนารมณ์ของไทยในการบรรลุเป้าหมายของไทยในความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero greenhouse gas emission) ภายในปี ค.ศ. 2065" นายธนกรฯ กล่าว