นรข.บึงกาฬ ยึดไม้พะยูง 116 ท่อน ขณะขนลงเรือริมโขงขายประเทศเพื่อนบ้าน
10 มิ.ย. 2565, 16:45
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 10 มิ.ย.ที่สถานีเรือหน่วยรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ พล.ร.ต.สมบัติ จูถนอม ผบ.นรข. และน.อ.ราฆพ เทวะประทีป ผบ.นรข.เขตหนองคาย พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ วิริยะเขษม ผกก.สภ.บุ่งคล้า พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ โคตรศรีวงศ์ ผบ.ร้อย ตชด.244 พ.ต.ต.นิคสัน ดียา สว.สส.สภ.เมืองบึงกาฬ พ.ต.ต.หญิงชุลีกร ลิมวิเศษศักดิ์ สว.ตม.พ.ต.ต.วิษณุ จินาวงษ์ สว.ตำรวจน้ำบึงกาฬ นายปรีชา ดิษย์เมธาโรจน์ ผอ.ส่วนควบคุมทางศุลกากร นายชัยณรงค์ สุระดะนัย ป้องกันจังหวัดบึงกาฬ นายสุรัตน์ วิเศษลา ผอ.ศูนย์ป่าไม้บึงกาฬ น.ส.กมลนิตยกานต์ หาญคำหล้า ผู้ช่วยป้องกันจังหวัด ร่วมกันแถลงข่าวตรวจยึดรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไททัน สีขาว ทะเบียน บธ 7527 นครพนม ขนไม้พระยูง จำนวน 116 ท่อน ปริมาตร 1.751 ลูกบาศก์เมตรมูลค่าประมาณ 700,000 บาท ที่บริเวณเขื่อนป้องกันตลิ่งทรุดริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านหาดแฮ่ หมู่ที่ 3 ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ
ทั้งนี้ จากการสืบทราบของ น.อ.ราฆพ เทวะประทีป ผบ.นรข.เขตหนองคาย ว่าจะมีการลักลอบของผิดกฎหมายส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่บริเวณริมโขงบ้านหาดแฮ่ ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จึงได้สั่งการให้ น.ท.การันต์ มินวงษ์ หน.สน.เรือบึงกาฬ ร.อ.อุดม บัวสุข ผค.เรือ รตล., ร.ท.ไชยา เนียมแสง ผค.เรือ รตล.นำกำลังประสานกับ พ.ต.ต.ชัยยัน พระตลับ สว.สส.สภ.บุ่งคล้า ร.ท.วิทยากร ศักดิ์ดาเดช ผบ.ร้อย ทพ.2107 ร.ต.ต.พรศักดิ์ กุศลสูงเนิน รอง สว.(ป.) กก.3 บก.ปทส.ร.ต.ฉัตรชัย ชาญเขว้า ผบ.สกัดกั้นที่ 1 กกล.สุรศักดิ์มนตรี นายพงษ์ดนัย อาจหาญ ปลัดฝ่ายป้องกัน นายอธิภัทร อยู่คุ้มญาติ หน.ฝ่ายปราบปรามทางศุลกากร วางแผนจับกุม
กระทั่งเวลาประมาณ 05.10 น.ขณะซุ่มเฝ้าระวังอยู่ใกล้ริมเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง ท้ายหมู่บ้านหาดแฮ่ ได้ยินเสียงเครื่องเรือแล่นข้ามน้ำโขงมาจากฝั่ง สปป.ลาว เข้ามาจอดบริเวณบันไดทางลงแม่น้ำโขง ซึ่งอยู่หากจากจุดที่ชุดดักซุ่มประมาณ 100 เมตร ในขณะเดียวกันบนฝั่งได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลประมาณ 9-10 คน ทยอยเดินมาจากในหมู่บ้านหาดแฮ่ และมารวมตัวกันอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงใกล้จุดที่เรือจอดอยู่ จากนั้นมีรถยนต์ต้องสงสัยสีขาวท้ายกระบะเป็นตู้ทึบคล้ายรถส่งสินค้า วิ่งเข้ามาจอดตรงที่กลุ่มบุคคลอยู่ คนขับรถได้เปิดประตูรถลงมาเปิดท้ายรถแล้วกลุ่มชายดังกล่าวได้แบกไม้พะยูงที่รถบรรทุกมาลงไปในเรือ เจ้าหน้าที่ได้เข้าแสดงตัวเพื่อจับกุม จึงได้ทิ้งไม้พะยูงวิ่งหนีฝ่าความมืดไปได้ ส่วนเรือที่จอดอยู่ริมน้ำคนขับได้ติดเครื่องยนต์ขับแล่นกลับไปยังฝั่ง สปป.ลาว ตรวจที่กระบะท้ายรถพบไม้พะยูงพบสภาพเป็นไม้ใหม่ไม่ผ่านการใช้งานนับจำนวนได้ 116 ท่อน จึงร่วมกันทำการตรวจยึดดังกล่าว ส่งให้ด่านศุลกากรเก็บรักษาต่อไป