เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



บัญชีม้า พนง.นิคมหลอกหมอฟันลงทุน ให้ปากคำอึ้ง! รายเดียวพบเงินเข้ากว่า 10 ล้าน


13 มิ.ย. 2565, 15:55



บัญชีม้า พนง.นิคมหลอกหมอฟันลงทุน ให้ปากคำอึ้ง! รายเดียวพบเงินเข้ากว่า 10 ล้าน




เจ้าของบัญชีม้านางสาวกบฯ อดีตพนักงานนิคมอุตสาหกรรม จ.ลำพูน 3 ราย ทยอยเข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรม จ.ลำพูน หลังเจ้าหน้าที่ฯสืบทราบว่าเกี่ยวข้องกับคดีหลอกตุ๋นเงินหมอฟันที่ลำพูน สูญเงิน 68 ล้าน ซึ่งบัญชีม้ารายนี้พบมีเงินโอนจากหมอฟันเข้ามา 10 ล้านบาท ซึ่งนางสาวกบฯหลอกหมอฟันว่าเป็นเงินค่าซื้อเหล็กโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.อยุธยา ล่าสุดมีเจ้าของบัญชีม้าทั้งหมดให้การกับพนักงานสอบสวนฯ รวมทั้งหมด 11 ราย จากทั้งหมด 13 ราย รวมยอดเงินที่นางสาวกบหลอกให้คุณหมอโอน 53 ล้านบาท 

ความคืบหน้ากรณีนางสาวกบ  นามสมมุติ อดีตสาวโรงงานนิคมอุตสาหกรรม จ.ลำพูน เป็นเพื่อนกันกับหมอกระต่าย เป็นหมอฟันเปิดคลินิก ย่านตัวเมืองลำพูน และอ้างว่าได้เปิดบริษัทรับซื้อกากอุตสาหกรรมตามโรงงานย่านนิคมอุตสาหกรรม ต่อมาหมอกระต่ายประกาศขายที่ดิน 6 ไร่ในราคา 7.8 ล้าน นางสาวกบฯ จึงบอกกับหมอกระต่ายฯ ว่าสนใจซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวเพื่อขยายโรงงาน หมอกระต่ายจึงได้ขายที่ดินแปลงดังกล่าวให้ โดยนางสาวกบฯ ด้วยความที่ว่าเชื่อใจหมอกระต่าย จึงได้โอนโฉนดที่ดินให้ หลังจากนั้นนางสาวกบฯยื่นกู้ขอสินเชื่อจากธนาคาร 10 ล้านบาท นำเงินให้หมอกระต่ายฯ 3.9 ล้าบาท ค้างเงินอีก 3.9 ล้านบาท แต่เงินที่เหลือ นางสาวกบฯกลับนำเงินที่เหลือไปจ่ายหนี้กับเจ้าหนี้รายอื่น แต่ก็ไม่ได้จ่ายเงินที่เหลือให้หมอกระต่าย จนทวงถามหลายครั้งได้ทยอยจ่ายทีละ 1-2 แสน จนยอดหนี้เหลือ 1.9 ล้านบาท ต่อมานางสาวกบฯ ได้หลอกหมอกระต่าย ลงทุน ค้าหน้ากากอนามัย ลงทุนค้าเหล็กและค้าทองแดง โดยสร้างสตอรี่ และสร้างตัวละครหลอกหมอกระต่ายโอนเงิน รวมความเสียหายกว่า 68 ล้านบาทตั้งแต่ปี 2562  ตามที่เป็นข่าวไปแล้ว จากการสืบสวนสอบสวนพบว่ามีการโยกย้ายเงินที่ได้มาจากการโกงครั้งนี้ไปบัญชีคนรู้จักบัญชีเพื่อนๆบัญชีญาติๆ แต่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีการโยกย้ายเงินจึงได้สั่งให้อายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทำให้กลุ่มขบวนการโกงครั้งนี้กลัวจะตกเป็นผู้ร่วมกระทำผิดจึงพากันดิ้นเพื่อไม่ให้ตัวเองรอดจากคดี เพื่อให้ตัวเองพ้นจากการถูกดำเนินคดีต่างพากันมาพบพนักงานสอบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรม จ.ลำพูน เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์



ล่าสุดนายสรพงษ์ (นามสมมติ) อายุ  31 ปีเดินทางจาก จ.นครสวรรค์ เข้าพบ ร.ต.อ. ศักดิ์ชัย  พรเจิมกุล พนักงานสอบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรม จ.ลำพูน หลังถูกอายัดบัญชีธนาคาร เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีหลอกหมอฟันลงทุน โดยนายสรพงษ์ฯ ให้การว่าตนเป็นพนักงานบริษัทเงินกู้แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งรู้จักกับนางสาวกบ(นามสมมติ) เมื่อประมาณกลางปี 2564 เพราะเจ๊กบเป็นลูกค้าเงินกู้ชั้นดี ส่งรายวันดีตลอดมา ประกอบกับบุคลิกดี หน้าที่การงานดี การพูดจาน่าเชื่อถือ พร้อมเอกสารหลักฐานที่แสดงให้ตนหลงเชื่อว่าตนปล่อยกู้แล้วจะได้เงินคืนแน่นอน จึงหลงเชื่อ โดยหลอกให้ตนเองไปขู่ทวงหนี้หมอกระต่าย เพราะนางสาวกบฯ บอกว่าหมอกระต่ายเป็นหนี้ตัวเองแล้วไม่ยอมคืน  ตนจึงหลงเชื่อเพราะพฤติกรรมที่เจ๊กบแสดงออกให้ตนเห็นนั้น น่าเห็นใจเป็นอย่างมาก  อีกทั้งเจ๊กบยังมีน้ำใจชอบมีสินน้ำใจให้ตนตลอดมา  จนก่อนเกิดเหตุ ตนจึงปล่อยเงินกู้ให้เจ๊กบเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยกู้อยู่ แล้วเจ๊กบก็อุ้มเงินจำนวนนี้หนี้ไป อย่างไร้วีแวว 

ซึ่งจากการให้การของนายสรพงษ์ ทราบว่าเจ๊กบ ได้หลอกหมอกระต่าย ว่ากู้เงินจากบริษัทนายสมพงษ์ ระยะสั้นระหว่างที่รอเงินจากการขายเหล็ก เพื่อนำเงินมาหมุนเวียน ในธุรกิจ โดยให้หมอกระต่าย จ่ายค่างวดรายวันผ่านบัญชีธนาคารของนายสรพงษ์ เมื่อหมอกระต่าย เห็นว่าจ่ายค่างวดไปมากแล้วจึงแจ้งให้เจ๊กบฯ จ่ายค่างวดบ้างเนื่องจากเป็นหุ้นส่วนกัน แต่นางสาวกบฯกลับให้นายสรพงษ์ มาข่มขู่ทวงหนี้กับหมอกระต่าย ซึ่งความจริงนางสาวกบฯไม่ได้กู้เงินจากบริษัทนายสรพงษ์ แต่อย่างใด

ต่อมา น.ส.จิน่า ( นามสมมติ) อายุ 29 ปี ภูมิลำเนาจังหวัดลำปาง ได้นำเอกสารประกอบด้วยสำเนาการโอนเงินจากบัญชีธนาคารของตน เข้ามาพบ ร.ต.อ. ศักดิ์ชัย  พรเจิมกุล พนักงานสอบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรม จ.ลำพูน หลังจากถูกอายัดบัญชีธนาคารเช่นกัน ซึ่งได้ให้การว่าตนเองรู้จักน้ากบผ่านทางน้าสาวฯมานานแล้ว  น้ากบเป็นคนพูดจาดีน่าเชื่อถือ จึงขอยืมบัญชีเมื่อกลางปี 2564 โดยให้เหตุผลว่า หมอกระต่ายติดหนี้ของตนแล้วไม่สามารถคืนตนเองได้ ซึ่งน้ากบได้ทวงหนี้ก้อนนี้จากหมอกระต่ายหลายครั้งแล้วไม่เป็นผล  จึงอ้างให้หมอกระต่ายโอนเงินเข้าบัญชีของน.ส.จีน่า เพื่อเป็นการชำระหนี้ที่น้ากบติดค้างน.ส.จิน่า แทนการโอนผ่านบัญชีน้ากบเอง จนน.ส.จีน่า โดนอายัดบัญชีดังกล่าว ด้วยวงเงินเกือบ 10 ล้าน ซึ่งตอนนี้น.ส.จีน่าได้พยายามติดต่อไปยังน้ากบ แต่ไม่สามารถติดต่อได้

อย่างไรก็ตามจากการสอถามหมอกระต่าย ผู้เสียหายทราบว่า นางสาวกบฯหลอกให้ตนโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารนางสาวจีน่า ซึ่งเป็นหลานสาวของเพื่อนนางสาวกบฯ โดยอ้างว่าขณะนั้นได้รับซื้อเหล็กจากโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.อยุธยา และบอกให้หมอโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ของนางสาวจีน่า ซึ่งหลอกว่า เป็นพนักงานฝ่ายจัดซื้อของบริษัทดังกล่าว โดยมีการโอนเงินครั้งหลักหมื่น และมากที่สุดคือจำนวน 1.7 บาท รวมทั้งหมด 60 ครั้งเป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 เป็นต้นมา จนเรื่องแดงขึ้นจึงมีการตรวจสอบบัญชีธนาคารของนางสาวจีน่าฯและถูกอายัด เพื่อตรวจสอบ 


ขณะที่ น.ส. ชวนชม อายุ 49 ปี พนักงานบัญชีของสำนักงานกฎหมายแห่งหนึ่งในจังหวัดลำพูน  ได้เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนสภ.นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือลำพูน กรณีบัญชีถูกอายัดเงินจำนวน 3 หมื่นบาท  โดยน.ส.ชวนชม (นามสมมติ) ได้ให้ปากคพนักงานสอบสวนว่า ตนได้รู้จักกับน.ส.กบ มาประมาณ 3-4 ปี เนื่องจากน.ส.กบ ได้เป็นลูกค้าให้จดทะเบียนการค้ากับกรมพัฒนาธุรกิจ และให้ตนทำบัญชีให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ที่น.ส.กบ เปิดอยู่  ต่อมาเมื่อประมาณเดือนเมษายน 2564 น.ส.กบได้ติดต่อให้ตนทำเรื่องเปลี่ยนชื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดใหม่ จึงมาทาบทามตนให้ดำเนินการดังกล่าว แล้วหลอกให้หมอกระต่ายโอนเงินเข้าบัญชีน.ส.ชวนชม ด้วยจำนวนเงินที่เกินจากค่าดำเนินการที่ตั้งไว้คือ3หมื่น จริงๆแล้วค่าดำเนินการแค่ 4080 โดยอ้างว่าโอนเกิน จึงขอให้น.ส.โอนส่วนเกินจำนวน 25920 บาท คืนแก่น.ส.กบ  จึงโดนอายัดบัญชีธนาคารดังกล่าว

ส่วนทางฝ่ายหมอกระต่าย ผู้เสียหายได้ให้การว่าน.ส. กบ ได้ให้ตนโอนเงินค่าดำเนินการให้แก่เจ้าหน้าที่กรมอุตสาหกรรมลำพูน  ซึ่งสรุปได้ว่าทั้งสองคนโดนน.ส.กบ หลอกตามเคย






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.