ชาวฮ่องกงจำนวนมากร่วมการต่อต้านกฎหมายการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งเป็นการเปิดทางให้ทางการของเขตปกครองพิเศษฮ่องกงส่งตัวผู้ต้องสงสัยไปยังประเทศจีนเพื่อดำเนินคดีได้ ฝ่ายผู้จัดการชุมนุมระบุว่ามีผู้เข้าร่วมการชุมนุมมากกว่า 5 แสนคน ซึ่งนับเป็นจำนวนที่มากที่สุดในรอบ 15 ปีคือนับตั้งแต่ปี 2546 ที่เป็นการคัดค้านกฎหมายด้านความมั่นคง

แม้บรรยากาศในภาพรวมเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย และผู้ประท้วงส่วนใหญ่แยกย้ายกันเองเมื่อถึงช่วงกลางดึก แต่เกิดการปะทะอย่างดุเดือดระหว่างตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุมหลายร้อยคน ซึ่งประกาศจะปักหลักค้างแรมอยู่นอกอาคารที่ทำการสภานิติบัญญัติ ( เล็กโค ) และบางส่วนพยายามบุกรุกเข้าไปภายใน อาคาร ผลให้เจ้าหน้าที่ใช้กระบอง พร้อมทั้งฉีดสเปรย์พริกไทยเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมส่วนนี้เพื่อควบคุมสถานการณ์ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย

สำหรับประเด็นในการชุมนุมครั้งนี้ นอกจากการคัดค้านกฎหมายการส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้แก่จีนแผ่นดินใหญ่แล้ว ยังการเรียกร้องให้นางแคร์รี แลม ผู้ว่าการฮ่องกงลาออกด้วย โดยในช่วงที่มีการอภิปรายในสภา นางแลม ยินยอมให้มีการปรับแก้กฎหมายแต่ปฏิเสธที่จะถอนร่างกฎหมายออกจากการพิจารณา โดยชี้แจงว่า เป็นกฎหมายสำคัญเพื่อปิดช่องว่างทางกฎหมาย และจะเป็นการพิจารณาส่งตัวเป็นรายกรณีง่ายขึ้น ซึ่งฮ่องกงมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนมากกว่า 20 ประเทศแล้ว แต่ฝ่ายคัดค้านไม่มีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของจีน