"พี่สาวคาใจ" แพะยอมรับเป็นคนฆ่าน้องชาย พบพยานหลักฐานขัดแย้งกับคำให้การ
18 มิ.ย. 2565, 10:51
พี่สาวคาใจ พยานหลักฐานขัดแย้งกับคำให้การ ผู้ต้องหารับสารภาพแทงผู้ตายครั้งเดียว แต่ศพน้องชาย มีบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่ง มั่นใจ น้องชายเป็นคนรูปร่างกำยำ และเคยเป็นทหารมาก่อน ผู้ต้องหา รูปร่างผอม-เล็ก และอายุมากกว่า 60 ปี ไม่น่าจะฆ่าตายได้เพียงคนๆเดียว คาดถูกรุมฆ่าจากที่อื่นก่อนนำศพมาจัดฉากเพื่ออำพรางคดี วอนสื่อขอให้ตำรวจคลี่คลายคดีให้กระจ่าง
(18 มิ.ย.65) นางสาวธาริณี มุ่งสูงเนิน อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 1 ต.หลักเหลี่ยม อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ พร้อมกับมารดา ซึ่งเป็นครอบครัวของผู้เสียหาย เดินทางมาขอคำปรึกษา ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน (ศกช.) ตำบลนามน อำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อขอรับเงินเยียวยาจากรัฐ ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา โดยที่ตนมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความผิดนั้น จากยุติธรรมจังหวัด
กรณี “น้องชาย” คือ นายทองบ่อ มุ่งสูงเนิน อายุ 31 ปี ถูกนายมังกร หัสสา อายุ 56 ปี ใช้มีดปลายแหลมแทงเข้าที่หน้าอก 1 ครั้ง และเสียชีวิต (ตามคำให้การของผู้ต้องหา) เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.2564 พื้นที่รับผิดชอบ สภ.นามน อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ พร้อมกับเปิดเผย ความรู้สึก ไม่เชื่อมั่นในขั้นตอนการสอบสวน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รับผิดชอบคดี
เนื่องจาก พยานหลักฐาน และคำให้การของผู้ต้อง ขัดแย้งกันหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า แทงผู้ตายไป หนึ่งครั้ง แต่จากการตรวจสอบศพของน้องชาย ระหว่างนำศพมาทำความสะอาดเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา พบว่ามีบาดแผลชกรรจ์ตามร่างกาย หลายแห่ง เช่น บริเวณหน้าขาขวาหักผิดรูป มีบาดแผลบริเวณปาก บาดแผลบริเวณลูกอัณฑะ รวมบาดแผล จำนวน 6 แผล
ส่วนประเด็นที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า พบผู้ตายเข้าไปก่อเหตุลักขโมยขุดมันสำปะหลังในไร่ของผู้ต้องหา จึงมีการต่อสู้กันและใช้มีดปลายแหลมแทงผู้ตาย ในที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และอุปกรณ์สำหรับขุดมันสำปะหลังตามคำให้การของผู้ต้องหา และยังรวมถึงไม่พบคราบเลือดของผู้ตายตกอยู่พื้นแต่อย่างใด
อีกทั้ง ผู้ต้องหา ยังเป็นคนที่มีรูปร่างผอม อายุมากกว่า 60 ปี แล้ว ส่วนผู้ตายอายุ 31 ปี เป็นคนรูปร่างสูงใหญ่กำยำ และเคยเป็นทหารเกณฑ์มาก่อน ไม่เชื่อว่า “คนๆเดียว ไม่น่าจะฆ่าน้องชายได้”
โดยคาดว่า “น้องชาย” ของตน น่าจะถูกคนหลายคนรุมฆ่าตายจากที่อื่น แล้วนำศพมาทิ้งในไร่มันเพื่อจัดฉากว่าทำเป็นว่าน้องชายของตน มาลักขโมยขุดมันสำปะหลัง ของผู้ต้องหา แล้วถูกจับได้ จึงมีการต่อสู้กัน และถูกแทงตาย จึงอยากขอความเป็นธรรม ขอให้ตำรวจ สภ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ทำการสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็น ที่คำให้การของผู้ต้องหา ขัดแย้งกับวัตถุพยานหลักฐานให้มีความชัดเจน เพื่อจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ฆ่าน้องชายของตนอย่างแท้จริงมาลงโทษตามกฎหมาย
ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2565 นายไมตรี มุ่งสูงเนิน บิดาของ นางสาวสุธาริณี ยังได้ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ไปยัง อัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ ขอให้ทำการสั่งสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อความชัดแจ้งและเป็นธรรมกับผู้ตายอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากแหล่งข่าวผู้กว้างขวางในพื้นที่ อ.นามน ว่า ในวันเกิดเหตุ ตอนกลางวัน ผู้ตายถูกวานให้ไปช่วยสีข้าวกับกลุ่มเพื่อนๆสนิทด้วยกันหลายคน แต่พิธีสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศลให้กับผู้ตาย ไม่มีเพื่อนคนใดในกลุ่มที่ไปช่วยสีข้าวในวันนั้น มางานศพผู้ตายแม้แต่คนเดียว และหลังจากวันที่ผู้ตายได้เสียชีวิต ก็ไม่มีเพื่อนในกลุ่มดังกล่าวอยู่บ้านของตนแม้แต่คนเดียว