"ชลบุรี" พบผู้ติดเชื้อโควิดวันที่ 23 มิ.ย.65 เพิ่มอีก 159 ราย
23 มิ.ย. 2565, 08:04
ล่าสุด (23 มิ.ย.65) ทางด้านเพจเฟซบุ๊ก "สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี สสจ.ชลบุรี" รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิดในพื้นที่ โดยข้อมูลสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี (สสจ.ชลบุรี) ณ เวลา 06.30 น.วันที่ 23 มิถุนายน 2565 ระบุว่า วันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 159 ราย
วันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยืนยันรายใหม่ RT-PCR จำนวน 159 ราย ผู้เข้าข่ายติดเชื้อโควิด-19 ATK 2,242 ราย
ณ วันที่ 23 มิถุนายน 2565 จังหวัดชลบุรี มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม 1,058,623 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มติดเชื้อ 1,023 คน (อัตราป่วย 96.63 ต่อแสนประชากร) ผู้ป่วยเสียชีวิต 2 ราย (0.19 ต่อแสนประชากร), ไม่มีรายงานผู้ป่วยใส่ท่อหายใจ, ผู้ป่วยปอดอักเสบ 3 ราย (0.28 ต่อแสนประชากร)
มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม 1,989,181 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 533 คน (อัตราป่วย 26.79 ต่อแสนประชากร) ไม่มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิต, ผู้ป่วยใส่ท่อหายใจ 5 ราย (0.25 ต่อแสนประชากร), ผู้ป่วยปอดอักเสบ 4 ราย (0.20 ต่อแสนประชากร)
ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม 101,170 คน และไม่ได้ฉีดวัคซีนอีก 238,722 คน รวม 339,892 คน ในเดือนนี้พบผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนไม่ครบและยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 738 คน (อัตราป่วย 217.13 ต่อแสนประชากร) ผู้ป่วยเสียชีวิต 4 ราย (1.18 ต่อแสนประชากร), ผู้ป่วยใส่ท่อหายใจ 7 ราย (2.06 ต่อแสนประชากร), ผู้ป่วยปอดอักเสบ 8 ราย (2.35 ต่อแสนประชากร)
วันนี้พบใส่ท่อหายใจรายใหม่ 1 ราย
(พบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2565)
ผู้ป่วยปอดอับเสบรายใหม่ 1 ราย
(พบประวัติการรับวัคซีนสามเข็มเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2565)
ดังนั้นการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ โดยเฉพาะเข็มที่สาม ซึ่งเป็นเข็มกระตุ้นที่ผู้ทีอาศัยในจังหวัดชลบุรียังไม่ได้รับการฉีดจำนวนมาก การรับวัคซีนเข็มกระตุ้นจะช่วยลดความรุนแรงของโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ที่อาศัยในจังหวัดชลบุรีที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ยังมีอัตราอาการรุนแรงและเสียชีวิตมากมาโดยตลอด ขอความร่วมมือให้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นครบตามเกณฑ์
สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องมีสังเกตุอาการ ระมัดระวังไม่ให้แพร่เชื้อ
การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดชลบุรี อยู่บนพื้นฐานของสมดุลระหว่าง การควบคุมโรค เศรษฐกิจ สังคม
ปัจจัยความเร็วในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นกับการเคลื่อนที่นอกบ้านของประชาชน ความใกล้ชิดกัน รวมทั้งระยะเวลาในการใกล้ขิดกัน นอกเหนือจากการไม่เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล หากไม่ล้างมือก่อนจับหน้า เชื้อเข้าทางจมูก ปากตา ทำให้มีการติดเชื้อและแพร่ระบาดได้
ในสภาวะการณ์ที่โควิด-19 มีการระบาดในวงกว้าง จนอาจกลายเป็นโรคประจำถิ่น เชื้อไม่ได้หมดสิ่นไป ทำให้มีโอกาสในการติดเชื้อได้ แต่ต้องไม่ให้เกิดการระบาดจนระบบสาธารณสุขรองไม่ได้ และต้องไม่เสียชีวิต ดังนั้นจึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของจังหวัดชลบุรี
วัคซีนเป็นหลัก รู้จักป้องกัน รู้ทันโรคประจำถิ่น
1. วัคซีนเป็นหลัก วัคซีนมีความสำคัญมากในการเข้าสู่ภาวะการดำเนินชีวิตที่อยู่ร่วมกับโควิด-19 วัคซีนลดความรุนแรงของโควิด-19 ได้ ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ยังคงสามารถติดเชื้อโควิด-19 ได้ ยังคงต้องมีสุขอนามมัยส่วนบุคคล ขอความร่วมมือทุกท่านในการฉีดวัคซีน เพื่อลดความเร็วในการระบาด และลดความรุนแรงของโควิด-19 โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประตำตัว ขณะนี้ยังคงมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว และเป็นผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน
2. รู้จักป้องกัน ทุกคนป้องกันตัวเเอง ยังคงเคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล ใส่แมสก์ในที่ชุมนุมชน หรือใกล้ชิดกันในที่ปิด แคบ ผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว เคร่งครัดในการใส่แมสก์ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจลบ่อยๆ หลีกเลี่ยงแหล่งชุมนุมชน แออัด
3 รู้ทันโรคประจำถิ่น แยกกักโควิด ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สามารถแยกกักที่บ้านได้หากไม่มีอาการและไม่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงควรสังเกตุอาการ ไม่อยู่ในที่ชุมนุมชน