"กระบะ" เสียหลักพุ่งชนขอบทาง ย่านพระราม 3 ไฟลุกท่วมทั้งคัน ดับ 2 ราย
2 ก.ค. 2565, 13:32
เมื่อเวลา 06.21 น. วันที่ 2 กรกฎาคม 2565 ร.ต.ท.สราวุฒิ สุขสวัสดิ์ รองสารวัตรสอบสวน สน.บางโพงพาง ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำ เกิดเพลิงลุกไหม้ ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าวัดปริวาสราชสงคราม ซอยพระราม 3/30 ถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน เหตุเกิดในช่องทางขวาสุด อยู่ติดกับแบริเออร์ ซึ่งเป็นช่องทางเดินรถ BRT เพลิงอยู่ระหว่างลุกไหม้อย่างรุนแรง เบื้องต้นพบมีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชาย สภาพกระเด็นออกมาจากนอกตัวรถแล้วถูกเพลิงลุกไหม้ เจ้าหน้าที่ใช้น้ำทำการดับประมาณ 40 นาที เพลิงจึงสงบ โดยรถยนต์ที่เพลิงลุกไหม้ เป็นรถกระบะ โตโยต้า แบบมีคอกเหล็กท้ายรถ
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณสถานที่เกิดเหตุพบภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เกิดมาจากรถกระบะคันดังกล่าวขับขี่มาด้วยความเร็วสูง พอมาถึงจุดเกิดเหตุได้เสียหลักล้อหน้าปีนขึ้นบนแท่นปูนที่ใช้กันขอบทางเดินรถ BRT ทำให้เกิดพลิกตะแคงคว่ำอย่างรุนแรงจนคนที่อยู่ภายในรถกระบะกระเด็นออกมานอกตัวรถ แล้วเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นมาอย่างรุนแรง ชาวบ้านที่อยู่บริเวณแถวนั้นยังได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดดังขึ้นหลายครั้ง ส่วนผู้ที่โดยสารมากับรถถูกไฟคลอกเสียชีวิต รวม 2 ราย ในสภาพไหม้เกรียม เอกสารทุกอย่างภายในรถถูกเผาไหม้ไปกับกองไฟ จนไม่ทราบได้ว่าผู้เสียชีวิตทั้งสองรายเป็นใครมาจากไหน ส่วนสาเหตุที่เกิดการระเบิดหลายครั้งหลังจากที่มีแสงเพลิงนั้นคาดว่ารถกระบะคันดังกล่าวอาจจะบรรทุกสารเคมี
จากการสอบถามพนักงานกวาดถนนรายหนึ่งอายุ 43 ปี เล่าว่า ตนกวาดพื้นกวาดขยะอยู่บนสะพานลอย ทีนี้รถกระบะขับมาชนกับขอบเกาะกลางช่องบีอาร์ที แล้วก็เสียหลักพลิกคว่ำไฟก็ลุกท่วมเลย คนก็ออกมาไม่ทัน จึงเสียชีวิตอยู่ตรงนั้น แล้วก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง ส่วนรถที่ผ่านไปมาก็ยังไม่มี มีคนที่เห็นเหตุการณ์ก็แจ้งกู้ภัยดับเพลิงกัน สักพักถึงมีเจ้าหน้าที่มีอาสามาถึง
ด้านเจ้าของร้านขายของชำผู้พบเหตุการณ์กล่าวว่า แม่ตนลงมาเปิดร้านเรียงของตอนเช้า แล้วได้ยินเสียงดังมาก จึงรีบขึ้นไปปลุกคนบนบ้านให้ลงมาเพราะไฟมันไหม้แรงมาก ถึงกับทำให้ประตูร้านตนร้อน ตนก็โทรแจ้งดับเพลิง ครึ่งชั่วโมงยังไม่มาเลย ดีว่ามีรถอาสามาเร็วถึงก่อน แล้วมีน้ำที่เกาะกลาง จึงช่วยกันดับ ก็ไม่เข้าใจว่าโทรแจ้งแล้วรถดับเพลิงไม่รีบมา ทำไมไม่สแตนบายไว้ มีแต่รถน้ำต้นไม้ รถกู้ภัยมา แล้วเกาะกั้นช่องบีอาร์ทีมันเตี้ยไป อยากให้สูงกว่านี้เพราะเกิดอุบัติเหตุบ่อยมาก อย่างต้นไม้ที่เตี้ยๆ ที่เห็นโดนชนไปแล้วมาปลุกขึ้นใหม่ทั้งนั้นแหละ ตรงนี้เป็นจุดที่ชนบ่อย ไฟกลางคืนก็ไม่สว่าง เลี้ยวโค้งมาก็เกิดอุบัติเหตุกันได้ง่าย
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลจุฬา ได้มอบหมายให้อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตทั้งสองราย ไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลจุฬา ก่อนที่จะมอบให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป