วันนี้ 4 ก.ค. 65 เวลา 01 .01 น. ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ร้อยตำรวจเอกชุมพล เหลืองเอี่ยม รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรท่าม่วง รับแจ้งเหตุรถชนกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนแสงชูโตฝั่งขาออกตัวเมืองกาญจนบุรีมุ่งหน้าอำเภอท่าม่วง เขตพื้นที่หมู่ 1 ตำบลท่าล้อ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนาวุธ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุ บริเวณริมถนน พบร่างของผู้เสียชีวิตเป็นชายนอนเสียชีวิตในลักษณะร่างคร่อมอยู่บนรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีน้ำเงิน-ดำ หมายเลขทะเบียน กวท 64 กาญจนบุรี มีร่องรอยการถูกชนท้ายล้มคว่ำอยู่ริมถนน ทราบชื่อของผู้เสียชีวิตรายดังกล่าว คือ นายศุทธิรัตน์ พูลพิริยะ อายุ 22 ปี มีบาดแผลแตกขนาดใหญ่ที่ศรีษะ ห่างออกไปเล็กน้อย พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายอีก 1 ราย นอนหงายเสียชีวิตอยู่ริมถนน สภาพศพมีบาดแผลแตกขนาดใหญ่ที่ศรีษะจนสมองไหล ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายวิษณุ ครุฑสุวรรณ์ อายุ 28 ปี นอกจากนี้ ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายอีก 1 ราย ติดอยู่ภายในรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน สีเทา หมายเลขทะเบียน ฆช 4744 กรุงเทพมหานคร ซึ่งพลิกคว่ำอยู่อีกฝั่งถนน เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาจากตัวรถเพื่อนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เนื่องจากผู้ได้รับบาดเจ็บมีแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ที่ศรีษะ ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บรายดังกล่าว คือ นายทรงวุธ ขุนจ่าเมือง อายุ 36 ปี

สอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่า ช่วงเกิดเหตุได้ยินเสียงรถขับมาด้วยความเร็วสูง ก่อนจะมีเสียงชนกันดังสนั่น เมื่อเปิดบ้านออกมาดูก็พบชายวัยรุ่นสองรายนอนเสียชีวิตอยู่ริมถนน ส่วนรถยนต์เก๋งเสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางไปพลิกคว่ำอยู่บนถนนฝั่งขาเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี จึงตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบและให้การช่วยเหลือดังกล่าว

ขณะที่ การ์ดของร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ถนนริมน้ำหน้าเมืองกาญจนบุรี ซึ่งเดินทางมาดูศพของผู้เสียชีวิตทั้งสองราย ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตทั้งสองคนพร้อมกลุ่มเพื่อน ได้ไปเที่ยวที่ร้านเหล้าซึ่งตนทำงานอยู่ ในระหว่างที่เที่ยวดื่มกินภายในร้านก็ไม่ได้มีปัญหากับใคร กระทั่ง ช่วงที่ร้านเลิก ผู้เสียชีวิตทั้งสองคนกำลังนั่งคุยกับตนอยู่บริเวณทางเข้าลานจอดรถ จู่ๆได้มีรถเก๋งคันหนึ่ง ขับเข้ามาตีโค้งด้วยความเร็ว ทำให้ตนรวมถึงผู้เสียชีวิตทั้งสองราย ตกใจ และได้ร้องตะโกนเตือนชายที่เป็นคนขับรถ ให้ขับช้าๆเพราะเกรงว่าจะไปชนลูกค้าคนอื่น ซึ่งชายคนดังกล่าวก็ไม่ได้โต้เถียงอะไร แต่ได้ขับรถไปจอดอยู่ริมถนนหน้าร้านแทน

จากนั้น ผู้เสียชีวิตก็ขอตัวขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ก่อนตนจะทราบข่าวว่าทั้งคู่ถูกรถชนเสียชีวิต จึงรีบตามมาดู แต่เมื่อเห็นรถเก๋งคู่กรณีก็จำได้ว่า เป็นรถคันที่ขับตีโค้งหวาดเสียวจนถูกตนตะโกนตักเตือนไป ซึ่งตนเชื่อว่า ชายคนขับรถอาจจะไม่พอใจที่ถูกตักเตือน เมื่อเห็นผู้เสียชีวิตทั้งสองคนขี่รถออกมาจากร้านจึงขี่รถติดตาม ก่อนจะตักดสินใจขับรถไล่ชนจนเกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รอสอบปากคำชายคนขับรถเก๋งอย่างละเอียด พร้อมเร่งตรวจสอบหาภาพวีดีโอจากกล้องวงจรปิด ในบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุในครั้งนี้ว่ามาจากการเจตนาขับรถไล่ชนจริงหรือไม่ต่อไป  ล่าสุด จนท.ได้เดินทางไปขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเขตเทศบาลเมือง ทาง ได้รับแจ้งว่ากล้องเสีย สาเหตุจากก่อนหน้านี้เกิดพายุพัดกระหน่ำรุนแรงทำให้กล้องขัดข้อง ส่วนรายละเอียดจะรายงานให้ทราบต่อไป